อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของประเทศไทยประกอบด้วย 15 อุตสาหกรรม แล้วทั้งหมดนี้จะมีส่วนทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ในเมืองของเราดีขึ้นอย่างไรบ้าง Urban Ally จะพาทุกคนมาร่วมสัมผัสกับโครงการ Power of Design ที่จะบอกเล่าเรื่องราวพลังของการออกแบบ ผ่านกิจกรรมดังต่อไปนี้ 1. Foodscape on the wall โดย Harid (Infinite Riot) ด้วยความที่ย่านพระนครเปรียบเสมือน ‘ครัวของกรุงเทพฯ’ มีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านข้างทางมากมายที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ ให้มาลิ้มลองรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ เราจึงอยากใช้โอกาสนี้ ทำให้ย่านเก่าแก่เป็นย่านน่าอยู่ น่าเที่ยว น่าลงทุนมากยิ่งขึ้น จึงเกิดไอเดีย ‘FOODSCAPE ON THE WALL’ นำเสนอจุดเด่นของร้านอาหารในย่านพระนคร ผ่านรูปแบบศิลปะบนกำแพง โดยใช้กระบวนการทำงานอย่างมีส่วนร่วมกับผู้ประกอบการในชุมชน 2. ธรรมชาติต้องรอด โดย Nature and City Scape Analytics (NACSA) x Locolab กรุงเทพฯ ไม่ได้แล้งธรรมชาติมาตลอด แต่เคยเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ (wetland) ที่อุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตนานาพรรณ “ธรรมชาติต้องรอด” (Nature-best Survival) เป็นการผสมผสานระหว่างงานการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ การสัมภาษณ์คนท้องถิ่น งานภาพถ่าย และงานประติมากรรมร่วมสร้าง “ธรรมชาติยักษ์” เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อเสนอศักยภาพเชิงนิเวศให้พื้นที่ว่างที่ยังไม่มีช่องทางการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ที่สามารถกลายเป็นพื้นที่สีเขียวที่สามารถช่วยหล่อเลี้ยงระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพให้ธรรมชาติรอดและเติบโตได้ท่ามกลางบริบทเมือง ตามแนวคิดการพัฒนา Nature-based Solution ที่เริ่มมีการพูดถึงอย่างแพร่หลาย สามารถเป็นทั้งสวนที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนและเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ไปในคราวเดียวกัน 3. Cut-up the Harmonies โดย Kittiphan Janbuala และ CMM Collective หาก ‘อาคารบ้านเรือน’ ต้องการจะเปล่งเสียงร้อง คงมีเรื่องราวและช่วงเวลาหลากหลายที่อยากบอกเล่ากับผู้คนที่แวะเวียนเข้ามา แต่ในความเป็นจริง บ้านไม่อาจส่งเสียงได้ เพราะฉะนั้นเมื่อกาลเวลาผ่านพ้น เรื่องราวต่างๆ จึงค่อยๆ ลบเลือนไป จนผู้คนอาจหลงลืมว่าที่แห่งนี้เคยมีความทรงจำมากมายที่เกิดขึ้น โปรเจกต์จึงนำเสนอผลงาน audiovisual Installation ผ่านการ Projection Mapping เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของสถานที่ จากการตีความเสียงและกราฟิกใหม่ เสมือนบ้านที่กำลังส่งเสียงออกมา 4. Undercurrent โดย SARATHMAYTHISA and FRIENDS ในเมืองหลวงที่แทบทุกการเคลื่อนไหวเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ ผลงานชิ้นนี้ต้องการนำเสนอสิ่งที่เป็นขั้วตรงข้ามกับความแน่นอนนี้ ผ่านพื้นผิวที่มีความลื่นไหลและยืดหยุ่น โดยตั้งใจที่จะเปลี่ยนพื้นที่บริเวณด้านหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ให้กลายเป็นสนามเด็กเล่นที่เด็กเล่นได้ ผู้ใหญ่เล่นดี เป็นสนามเด็กเล่นที่ทุกคนสามารถใช้งาน และมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ไปในเวลาเดียวกัน รวมถึงการเลือกใช้สิ่งที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อไปหลังจากนี้ได้อีกด้วย 5. ถนน - คน - เดิน โดย อักษรสนาน x Lanmita ถนน - คน - เดิน บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับถนน 3 สาย ผ่านป้ายนิทรรศการที่ติดตั้งตามผนัง หรือตามที่สาธารณะต่างๆ โดยใช้ภาพประกอบและการจัดวางเพื่อนำเสนอเรื่องราว วิถีชีวิต ความเป็นไปบนถนนทั้ง 3 สาย 6. บำรุงเมือง บำรุงพุง โดย อ. ดร. นิพัทธ์ชนก นาจพินิจ ร่วมกับทีมอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยสวนดุสิต อาหารขับเคลื่อนชีวิตผู้คนให้มีพลังงาน ร่างกายแข็งแรง และยังสร้างเมืองที่เข้มแข็ง เป็นพื้นที่ชีวิตที่เปี่ยมด้วยความสุขด้วยศาสตร์และศิลปะอาหาร แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้คนในเมืองต่างเร่งรีบ ทำให้หลายคนไม่อาจเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพอย่างที่ควรจะเป็น เราจึงอยากชวนดีไซเนอร์ เชฟ และผู้ประกอบการร้านอาหาร มาร่วมกันสร้างสรรค์อาหารที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนของผู้คนในเมือง 7. The Invisible Garden: Resonated Ground โดย Nerd Studio ft. Siravith Kongbandalsuk งานประติมากรรมทางเสียงที่ปรับมุมมองต่อเครื่องดนตรี (ฉาบ) และค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างเครื่องดนตรีกับเครื่องจักร “แมลงจักรกล” ก่อให้เกิดประสบการณ์ทางการรับชมใหม่ที่ผสมผสานคุณสมบัติทางภาพและเสียงแบบสุ่มซึ่งเปรียบเปรยได้ดั่ง ฝูงแมลงจักรกลที่เคลื่อนที่ไปมาอย่างมีชีวิตชีวาบนภูมิทัศน์ของเครื่องดนตรี 8. Outdoor Audio Guide โดย The Contextual ฟังเรื่องเล่าของย่านบนสถานที่จริง เพียงพกหูฟัง และสแกน QR Code ก็เริ่มประสบการณ์ชมเมืองแบบใหม่ในเวลาสั้น ๆ ได้เลย ในตอน “พระนครรอบลาน” บอกเล่าเรื่องรอบทั้ง 4 ด้านลานคนเมือง ในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ ศาสนา สถาปัตยกรรม หรือวิถีชีวิต ตั้งแต่ยุคก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ ยุคเปลี่ยนแปลงการปกครอง มาจนถึงยุคที่อดีตและปัจจุบันอยู่ร่วมกันกันอย่างลงตัว ในเวลาสั้นๆ