BANGKOK DESIGN WEEK 2025, 8 –23 FEB

อัพเดทและเที่ยวชมงาน

Influencer Pick #1 สาย sustain

เช็กลิสต์โปรแกรมรักษ์โลกกับ KongGreenGreenเตรียมตัวเติมพลังงานบวก+ ผ่านงานดีไซน์และความยั่งยืนไปพร้อมกันช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความยั่งยืน (Sustainability) กลายเป็นแนวคิดที่ถูกนำมาใช้จริงในงานออกแบบมากขึ้น เช่นเดียวกับ Bangkok Design Week ที่ทุกปีเรามักจะหยิบจับประเด็นของความยั่งยืนมาบอกเล่าผ่านโปรแกรมและงานดีไซน์ต่าง ๆ ที่ชวนให้ทุกคนมาเรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบและแนวคิดของความยั่งยืน“พอได้รับโจทย์มา เราก็ไปนั่งไล่ดูว่ามันมีโปรแกรมอะไรที่มันเกี่ยวข้องกับหัวข้อความยั่งยืนบ้าง เลยพบว่าปีนี้ก็ยังมีโปรแกรมหรืองานดีไซน์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความยั่งยืนอยู่เยอะเหมือนปีที่ผ่านมา” คำพูดของ ‘KongGreenGreen’ หรือ ‘ก้อง-ชณัฐ วุฒิวิกัยการ’ ครีเอเตอร์สายสิ่งแวดล้อม ที่เราชวนมาพูดคุยและไฮไลต์โปรแกรมที่กำลังจะเกิดขึ้นในเทศกาลออกแบบกรุงเทพฯ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความยั่งยืนยังคงเป็นอีกหนึ่งคอนเซปต์ที่เราให้ความสำคัญ ถึงแม้ธีมของเทศกาลจะต่างออกไปจากปีที่ผ่านมา โปรแกรมที่คุณก้องเลือกมา จึงไม่ใช่แค่พาร์ตของการออกแบบ แต่ยังมีเรื่องของความยั่งยืน ที่อัดแน่นมาในโปรแกรมต่าง ๆ ทั้งเรื่องของการ Upcycling ที่เป็นการลดของเสียและใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด, Green Space ที่มุ่งเน้นการสร้างพื้นที่สีเขียวภายในเมือง หรือจะเป็น Circular Economy แนวทางในการออกแบบรูปแบบธุรกิจให้เกิดการเติบโตทางอย่างยั่งยืนถ้าพร้อมแล้วเราขอชวนไปดูโปรแกรมไฮไลต์จาก คุณก้อง KongGreenGreen ที่ชวนให้คนรักษ์โลกได้เซฟเก็บไว้ ก่อนใช้เป็นไกด์บุ๊กส่วนตัวพาเดินเที่ยวชมงาน Bangkok Design Week 2025 “Design Up+Rising : ออกแบบพร้อมบวก” ที่จะถึงนี้ 📍8-16 กุมภาพันธ์ ที่ย่านเจริญกรุง – ตลาดน้อย, เยาวราช – ทรงวาด, ปากคลองตลาด, และพื้นที่อื่นๆ 📍15 – 23 กุมภาพันธ์ ที่ย่านพระนคร, บางลำพู​ – ข้าวสาร, และพื้นที่อื่นๆ 📍เฉพาะเสาร์และอาทิตย์ 8-9, 15-16, 22-23 กุมภาพันธ์ ที่ย่านหัวลำโพง, บางโพ, และพื้นที่อื่นๆ#BKKDW2025#BangkokDesignWeek#DesignUpRising#ออกแบบพร้อมบวกการ Upcycling ถือเป็นเทรนด์ใหม่ที่มีการนำมาใช้ในงานออกแบบอย่างแพร่หลาย การนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้วหรือของที่จะถูกทิ้งเป็นขยะมาแปลงให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณภาพที่ดีขึ้นและกลับมาใช้ประโยชน์ได้ หรือออกแบบให้มีความสวยงามเพื่อให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากโปรแกรมที่ก้องเลือกมา ที่มีการนำวัสดุเหลือใช้ต่าง ๆ มาดีไซน์ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับดนตรี“โปรแกรมแรกก็คือ “1+1=3” มันเป็นโปรแกรมที่ต่อยอดความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อสังคม โดย Gadhouse ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เราเคยไปมาปีที่แล้ว เป็นโปรแกรมที่นำวัสดุเหลือใช้ ไม่ว่าจะเป็นกล่อง UHT หรือเศษขยะจากกล่องต่าง ๆ นำมา Upcycle เป็นแท่นสำหรับใช้เล่นแผ่นเสียงหรือพวกเทิร์นเทเบิลต่าง ๆ หรือจะเป็นการนำฝาขวดพลาสติกมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ทางดนตรีต่าง ๆ ซึ่งโยงไปถึงการจัดการขยะพลาสติกที่เกิดขึ้น”เช่นเดียวกันกับปีที่ผ่าน ๆ มา ที่ Gadhouse ได้มีการนำเสนอมุมมองใหม่ ๆ ในเรื่องการดีไซน์ โดยยังยึดคอนเซปต์เรื่องของความยั่งยืน เพื่อให้ผู้คนสามารถหยิบจับแนวคิดเหล่านี้ได้ง่ายมากขึ้น จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่ช่วยตอกย้ำถึงความสำคัญของแนวคิดและการดีไซน์ในเทศกาลออกแบบกรุงเทพฯได้เป็นอย่างดี📍”1+1=3″ การต่อยอดความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อสังคมREVERB by Gadhouseย่านเจริญกรุง – ตลาดน้อยลานจัตุรัสไปรษณีย์ อาคารไปรษณีย์กลาง ถนนเจริญกรุง08 – 16 กุมภาพันธ์ 2568ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/106817“โปรแกรมนี้เป็นของสถานทูตเนเธอร์แลนด์ เขาน่าจะจัดฉายภาพยนตร์สารคดี When We Cycle ซึ่งเขาพยายามจะ Inspire ให้เห็นว่าเมืองอย่างกรุงเทพฯ ถ้ามันผ่านการคิดมา แล้วก็ผ่านการวางโครงสร้างจริง ๆ มันก็เป็นเมืองที่สามารถเดินทางด้วยจักรยานได้เหมือนกันซึ่งอันนี้ก็รู้สึกว่า มันตอบโจทย์เรื่องของความยั่งยืนเป็นอย่างมาก”นอกจากโปรแกรมที่มีการนำวัสดุเหลือใช้มาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แล้ว สิ่งหนึ่งที่ก้องให้ความสำคัญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน ที่จะช่วยลดมลพิษทางอากาศต่าง ๆ เช่น การปั่นจักรยาน หรือการเดิน ซึ่งถึงแม้จะเป็นสิ่งเล็ก ๆ แต่กลับสามารถตอบโจทย์ต่อเรื่องของความยั่งยืนในระยะยาวได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกันกับโปรแกรม Bike-in Movie Night ที่คุณก้องแนะนำมา📍Bike-in Movie NightNetherlands Embassy in Bangkokสถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย20 กุมภาพันธ์ 2568ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/107130“กระดาษไหว้เจ้าที่ไม่ต้องเผาถือเป็นการนําเสนอแนวทางใหม่ ๆ ของวิถีชีวิตและวัฒนธรรม คือการที่เราจะปรับชีวิตแล้วก็สังคมเข้ามาสู่ความยั่งยืนได้และบางทีมันต้องมีการปฏิรูป ซึ่งเรามองว่าสิ่งที่มันค่อนข้างเปลี่ยนยากมาก ๆ เลยก็คือเรื่องความเชื่อและวัฒนธรรม”สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาและพยายามหาทางออกของปัญหานี้กันมาอย่างยาวนาน คือเรื่องของวัฒนธรรมและประเพณีที่ทำให้เกิดมลภาวะต่าง ๆ ตั้งแต่การลอยกระทงหรืออย่างการเผากระดาษเพื่อไหว้เจ้าเอง ถึงแม้สิ่งเหล่านี้จะเป็นส่วนเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้น แต่เมื่อรวมกันมันกลับสร้างปัญหาได้มากกว่าที่คิด “การเผากระดาษไหว้เจ้า เขาเผากันมาตั้งแต่ยุคอากงอาม่า หรือแม้แต่การจุดธูปในศาลจีนหรือแม้แต่เทศกาลตรุษจีนเช็งเม้ง ซึ่งมันก็สามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของ PM 2.5 ได้ ถึงแม้มันจะเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อย แต่ว่ามันใกล้ชิดกับจมูกคนเราแล้วก็ใกล้ชิดกับชุมชน ใกล้ชิดกับบ้านเรือน ซึ่งถ้ามันเปลี่ยนได้ มันก็น่าจะช่วยเรื่องของอากาศสะอาดให้มันดีขึ้นได้ นอกจากนั้นยังสามารถกลายเป็นต้นแบบของการกล้าที่จะเปลี่ยนในอีกหลาย ๆ เรื่องที่กําลังจะตามมา ซึ่งดีไซเนอร์นี่แหละที่จะเป็นคนที่จะเป็นคนชักนํา แล้วเกิดการตั้งคําถามเพื่อที่จะหาทางออกร่วมกัน”📍กระดาษไหว้เจ้าที่ไม่ต้องเผาPlay Spaceย่านหัวลำโพงร้านเพลย์สเปซ08-09 / 15-16 / 22-23 กุมภาพันธ์ 2568ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/111066#BKKDW2025#BangkokDesignWeek#DesignUpRising#ออกแบบพร้อมบวก

Sponsor Highlight #9 EPSON

งานศิลปะแสงที่ใช้เทคนิค projection mapping นั้นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือชิ้นเก่งที่อยู่คู่งาน Bangkok Design Week มานานหลายปี และจัดทำแต่ละทีก็มักจะมีคอนเซปต์ใหม่ ๆ ที่ท้าทายการเล่าเรื่องอยู่เสมอ และสำหรับ BKKDW 2025 ในปีนี้ เบื้องหลังงานโปรเจกชั่นทั้งหมดคือผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพอย่าง เอปสัน ที่เข้ามาช่วยดูแลงานฉายภาพทั้งเล็กและใหญ่ ไล่มาตั้งแต่สะพานฮงอุทิศในย่านบางลำพู ไปรษณียาคาร และไฮไลต์สำคัญของย่านพระนครอย่างลานคนเมืองBoundless Pleasure คืองาน projection mapping ที่ตั้งใจนำเสนอเรื่องราวและความเคลื่อนไหวทางความคิดของผู้คนในเมือง โดยจัดฉายลงบนหน้ากากอาคารศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร หนึ่งในอาคารสุดไอคอนิกของเมือง เบื้องหลังงานนี้คือการร่วมมือกันของนักออกแบบสร้างสรรค์ทั้งชาวไทยและนานาชาติ นำโดยกลุ่ม THAI IMMERSIVE MEDIA CREATOR ASSOCIATIONมานั่งปล่อยใจ เฝ้ามองความเคลื่อนไหวในเมืองใหญ่ผ่านงานศิลปะไซส์มหึมาได้ใน Bangkok Design Week 2025 ‘Design Up+ Rising : ออกแบบพร้อมบวก+’ ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 15-23 กุมภาพันธ์ 2025 ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ ‘Boundless Pleasure’ ได้ที่ : https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/109417#BKKDW2025 #BangkokDesignWeek #DesignUpRising #ออกแบบพร้อมบวก

Sponsor Highlight #8 PTTGC พระนคร

ว่ากันว่าคนไทยเราผลิตขยะพลาสติกกันปีละ 2 ล้านตันโดยสัดส่วนขยะที่ถูกนำไปรีไซเคิลนั้นมีแค่ 21%ขณะที่อีก 79% จะถูกฝังกลบ หรือไม่ก็ตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราเสื่อยักษ์ที่ชื่อว่า Mega Mat จึงเกิดขึ้นบนไอเดียที่ว่า มันคงจะดีกว่าไหมหากเราสามารถชักชวน สนับสนุน และส่งเสริมให้ทุกคนใช้พลาสติกกันได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น โดยเบื้องหลังเสื่อผืนนี้คือการร่วมมือกันของหลายภาคส่วนทั้ง MVRDV Architects, Creative Economic Agency (CEA), PTT Global Chemicals (PTTGC) และสถานทูตเนเธอร์แลนด์ (NL Embassy)‘เสื่อ’ คือไอเท็มเอนกประสงค์ที่อยู่คู่ครัวเรือนไทยมาหลายชั่วอายุคน กระทั่งในเทศกาล Bangkok Design Week ปีนี้ที่พวกเขาได้นำเสื่อที่เราคุ้นเคย มาผลิตใหม่ด้วยพลาสติกรีไซเคิล แถมยังขยายไซส์จนปูได้เต็มลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร กินพื้นที่ใหญ่ถึง 860 ตารางเมตร ชวนให้เหล่าคนเมืองได้มานั่งเล่นในพื้นที่ที่ออกแบบมาให้เป็นเสมือน ‘ห้องนั่งเล่นของเมือง’โดยรูปทรง ลวดลาย และสีของเสื่อนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากหลังคาของวัดสุทัศนเทพวราราม ฝั่งตรงข้ามถนนกับลานคนเมืองนั่นเอง นอกจากนี้เสื่อแต่ละผืนยังทอด้วยลวดลายแบบดั้งเดิมเพื่อสะท้อนถึงศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นของไทยอีกด้วยหลายคนอาจสงสัยว่า จบงานแล้วเสื่อจะไปไหน? ไม่ต้องกังวลไป เพราะเสื่อทั้งผืนจะถูกรื้อถอนและนำกลับมาใช้ใหม่ ทั้งรีไซเคิลเป็นถุงและผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ นำไปมอบเป็นของที่ระลึก รวมถึงบริจาคให้กับวัดที่จำเป็นและนอกเหนือจากเสื่อยักษ์ Mega Mat แล้ว บริเวณโดยรอบยังมีการจัดแสดงโปรดักต์ที่ผลิตขึ้นจากวัสดุทางเลือกที่เหนือความคาดหมายอย่างเยื่อกาแฟ (Coffee Chaff) โดยผู้ผลิต MORE ก็ได้ขนมาโชว์ให้ดูทั้งโคมไฟ โต๊ะ ม้านั่ง แจกัน ไปจนถึงที่รองแก้วเลยทีเดียวตามไปนั่งเล่นบน Mega Mat และชื่นชมชิ้นงานออกแบบสนุกๆ จาก MORE ได้ที่ Bangkok Design Week 2025 ‘Design Up+ Rising : ออกแบบพร้อมบวก+’ ที่ลานคนเมือง ย่านพระนคร ตั้งแต่วันที่ 15-23 กุมภาพันธ์ 2025ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ ‘Mega Mat’ ได้ที่: https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/123366#BKKDW2025#BangkokDesignWeek#DesignUpRising#ออกแบบพร้อมบวก

Sponsor Highlight #7 SIAM PIWAT

ขึ้นชื่อว่าเป็นงาน Bangkok Design Week 2025 Design Up+ Rising ออกแบบพร้อมบวก+ ทั้งที สยามพิวรรธน์ก็ไม่พลาดที่จะชวนมาพบกับผลงานออกแบบและนิทรรศการที่ได้ร่วมกันสร้างสรรค์กับศิลปินจากทั้งชาวไทยและระดับโลก ซึ่งได้ถูกนำมาจัดแสดงในพื้นที่ศูนย์การค้าทั้งสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม ภายใต้ชื่อ Siam Piwat Creative Powerhouse (+) เพื่อให้งานนี้เป็นขุมพลังที่จะส่งต่อความคิดสร้างสรรค์ให้กรุงเทพมหานคร เป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องมาเยือนของนักเดินทางจากทั่วโลก“สยามพิวรรธน์ เป็นศูนย์การค้าแรกในไทยที่เปิดพื้นที่สร้างสรรค์งานศิลปะ วัฒนธรรม นวัตกรรม และสุนทรียศาสตร์เข้าไว้ด้วยกัน ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ในชีวิตของทุกคน” คุณชนิสา แก้วเรือน ผู้บริหารกลุ่มงานสร้างสรรค์และนวัตกรรม กล่าวถึงจุดยืนที่หนักแน่นของสยามพิวรรธน์ตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ภายในโซนของสยามพิวรรธน์ เราจะได้พบกับ🖼️ Arena of Arts ณ สยามพารากอน🇹🇭Creative Thais ณ สยามเซ็นเตอร์🤝Art Collaboration ณ สยามดิสคัฟเวอรี่🎨Magnificent of Splendor of Art ณ ไอคอนสยามโดยภายในงานประกอบไปด้วยผลงานสร้างสรรค์หลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะจัดวางอย่าง Reflection of You โดย Cheese Arnon (อานนท์ เนยสูงเนิน) The Future in Our Hand ผลงานศิลปะ Sculpture โดย Jaime Hayon , งานประติมากรรมอาตี๋น้อย Rainbow Kido โดยศิลปิน Rain Kai (R.K.) , Future Lab Volume 4: Design Culture x PatPixels ลวดลายที่แตกต่างบนตัวเสื้อชิ้นเดียวในโลก ร่วมกับ Yuedpao และ ศิลปิน Patpixels  , Color Meets Function by ODS นิทรรศการที่ผสมผสานผ่านสีสันและฟังก์ชั่นการใช้งาน , ICONCRAFT X THANIYA : The Stellar Zodiac Collection งาน Craft ที่ไม่ควรพลาด  รวมถึงไฮไลต์งานศิลป์ไทยระดับมาสเตอร์พีซที่แฝงตัวอยู่ในไอคอนสยามให้เราได้ไปเดินชมกันพบกับผลงานมากมายใน 4 ศูนย์การค้าใหญ่ใจกลางเมืองตลอดเทศกาล Bangkok Design Week 2025 ‘Design Up+ Rising : ออกแบบพร้อมบวก+’ ตั้งแต่วันที่ 8-23 กุมภาพันธ์ 2025 ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ ‘Siam Piwat Creative Powerhouse (+)’ ได้ที่: https://www.siampiwat.com/assets/bangkokdesignweek2025/iconsiam.php#BKKDW2025#BangkokDesignWeek#DesignUpRising#ออกแบบพร้อมบวก

Sponsor Highlight #6 EM DISTRIC

“ เมื่อ 20 ปีก่อน เราเปิด EMPORIUM ศิลปะคือส่วนหนึ่งของศูนย์การค้าอยู่แล้ว ต่อมาพอมี EMQUARTIER เราก็ยังคงมีกิจกรรมที่เกี่ยวกับศิลปะอยู่ตลอดเวลา จนมาถึงวันที่เรามี EMSPHERE ซึ่งเป็นจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายที่ทำให้ EM DISTRICT ครบสมบูรณ์และจะยิ่งสนุกมากขึ้น เพราะที่นี่คือพื้นที่ของคนรุ่นใหม่ที่มีศิลปะสอดแทรกอยู่ทุกส่วน ทำให้เราคิดว่า EM DISTRICTพร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนหนึ่งของ Bangkok Design Week”คุณตุ๊ก–สุธาวดี ศิริธนชัย กรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด เอ็ม ดิสทริค เล่าให้เราฟังถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้ EM DISTRICT จับมือกับ CEA และ The Head and The Heart Studio ในการจัด Academic Program ให้เหล่านักศึกษาออกแบบจากหลากสถาบัน ได้เตรียมความพร้อมก่อนที่จะก้าวออกจากรั้วมหาวิทยาลัย ออกไปสู่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์อย่างเต็มตัวเกิดเป็น 10 ผลงานศิลปะจัดวาง ที่จะกระจายตัวอยู่ทั่วพื้นที่ใจกลาง EM DISTRICT เริ่มมาตั้งแต่ เดินออกจากสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ มาสู่สกายวอล์ก เชื่อมเข้าไปยังศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ซึ่งคุณตุ๊ก เล่าให้ฟังว่าผลงานหลายชิ้นในโครงการนี้ นอกจากจะมีคอนเซปต์สนุกๆ และวิชวลที่สะดุดตาแล้ว ยังมีฟังก์ชั่นให้ผู้ชมงานได้เข้าไปมีส่วนร่วมได้อีกด้วย!“คอนเซปต์ของเราคือ Here,_____________Everyday คุณสามารถเติมคำในช่องว่างได้ว่าคุณมาที่นี่เพื่ออะไรในทุกๆ วัน เพราะสำหรับคนไทย ห้างสรรพสินค้าคือที่พักผ่อนหย่อนใจ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องมาซื้อของเพียงอย่างเดียว เพราะการมีอยู่ของห้างฯนั้นถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนเมืองไปแล้ว”โดยในขั้นตอนการพัฒนาผลงาน EM DISTRICT ได้เชิญคุณธีรนพ หวังศิลปคุณ นักออกแบบผู้เชี่ยวชาญด้านคอนเซปต์ดีไซน์และกราฟิกดีไซเนอร์ ผู้ก่อตั้ง TNOP DESIGN และคุณ Simon Pillard ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ผู้อยู่เบื้องหลังงานวิชวลอาร์ตทั้งหมดของ The Mall Group รวมถึงทีมการตลาดของเราไม่ว่าจะเป็นทีม MARKETING , MEDIA , PR , CONTENT CREATOR มาช่วยเป็น Mentor และให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์น้องๆ ในทุกมิติ ตลอดการทำโครงการ ทำให้ชิ้นงานจากไอเดียของน้องๆ ได้เกิดเป็นชิ้นงานจริงได้ ซึ่งแต่ละทีมก็ได้ออกแบบชิ้นงานออกมาได้อย่างน่าชื่นชม ไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่เน้นความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังสะท้อน มุมมอง แนวความคิดออกมาได้อย่างสร้างสรรค์ ทั้งยังสอดแทรกแรงบันดาลใจ และในเวลาเดียวกันยังแฝงแง่คิดให้สะกิดใจผู้ชมได้คิดและได้สำรวจตนเอง ในการใช้ชีวิตประจำวัน อีกทั้งในบางชิ้นงานยังให้กำลังใจ เสริมพลังบวกให้กับผู้ชมที่ใช้ชีวิตอยากเร่งรีบในปัจจุบันอีกด้วย เราหวังว่าผู้ที่มาชมนิทรรศการจะต้องได้รับอะไรกลับไปอย่างแน่นอน“ในปีถัดๆ ไปเราอยากเป็นผู้นำย่านสุขุมวิท-พร้อมพงษ์ เพื่อทำให้ที่นี่กลายเป็น ART DISTRICT อย่างเต็มรูปแบบ เพราะเราเชื่อว่าศิลปะคือสิ่งที่เราต้องปลูกฝัง ให้ผู้คน รวมไปจนถึงชุมชนได้ซึมซับในชีวิตประจำวัน ซึ่งเราก็หวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการปลูกฝังนั้น และเชื่อว่าศิลปะจะสามารถกล่อมเกลาสังคมของเราได้ไม่มากก็น้อย”ผลงานทุกชิ้นรอทักทายเราอยู่แล้วที่ Bangkok Design Week 2025 ‘Design Up+ Rising : ออกแบบพร้อมบวก+’ EM DISTRICT บริเวณทางเชื่อมรถไฟฟ้า และภายในศูนย์การค้า EMSPHERE ตั้งแต่วันที่ 8-23 กุมภาพันธ์ 2025 ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ ‘Academic Program : Here,_____________Everyday’ ได้ที่ : https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/125254?fbclid=IwY2xjawIQHeVleHRuA2FlbQIxMAABHeQDxBwwDH5OVJckp4jsSU87ZG3B6l9Cv9XyD0YabkZtT-cUityCIjVlVQ_aem_iPFLD28G2jm69UJRghQfLg#BKKDW2025#BangkokDesignWeek#DesignUpRising#ออกแบบพร้อมบวก

Sponsor Highlight #4 TAT

TAT + WISHULADA‘Underwater World – โลกใต้ทะเล’ในยุคที่ปะการังกำลังจะถูกแทนที่ด้วยขยะ‘จากงานวิจัยของ Lourens J.J. Meijer ระบุว่าประเทศไทยสร้างปริมาณขยะทางทะเล 2.3 หมื่นล้านตัน/ปี สูงเป็นอันดับ 10 ของโลก’ ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ใช่แค่เต่าทะเลที่จะหายไป แต่ยังหมายถึงทรัพยากรอื่น ๆ ในอ่าวไทยและทะเลอันดามันที่กำลังถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่อง และอาจไม่เหลืออะไรนอกจากขยะจากแนวคิดดังกล่าว คุณเอิบลาภ ศรีภิรมย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยวต้องการสื่อสารให้นักท่องเที่ยวได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาขยะทางทะเลเหล่านี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้ร่วมกับศิลปิน WISHULADA หรือ วิชชุลดา ปัณฑรานุวงศ์ นำเสนอชิ้นงานศิลปะสะท้อนแนวคิดดังกล่าวในชื่อ ‘Underwater World’ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Aquarium แห่งท้องทะเลไทย ผลงานชิ้นล่าสุดที่สร้างสรรค์ขึ้นจากการ Reuse-Upcycle ขยะในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและวัสดุเหลือใช้จากการบริโภคของพนักงานในองค์กรไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำ หลอดน้ำ หรือห่อขนมต่าง ๆโดยเบื้องหลังผลงานชิ้นนี้มีจุดประสงค์เพื่อสะท้อนภาพความเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางทะเลในปัจจุบัน ไปพร้อมกันกับการฉายภาพความสวยงามอีกด้านที่พวกเราทุกคนสามารถช่วยกันรักษาไว้ได้หากมีความตระหนักรู้ถึงความสำคัญ และช่วยกันลดปริมาณขยะ เพื่อดูแลรักษาทรัพยากรให้คงอยู่และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามต่อไปเป้าหมายสูงสุดของ ททท. ในปัจจุบันคือการนำพาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยก้าวไปสู่การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) พร้อมทั้งมีการกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึง เพื่อเป้าหมายเลขสูงสุดคือการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในทุกมิติท่านสามารถแวะมาชื่นชมผลงาน และสัมผัสกับสถานการณ์ขยะในโลกใต้ทะเลผ่านผลงานชิ้นนี้ได้ในงาน Bangkok Design Week 2025 ‘Design Up+ Rising : ออกแบบพร้อมบวก+’ ณ ชั้น 4 TCDC Resource Center อาคารไปรษณีย์กลาง ถนนเจริญกรุง ตั้งแต่วันที่ 8-16 กุมภาพันธ์ 2568ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ ‘โลกใต้ทะเล’ ได้ที่ : https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/126466#BKKDW2025#BangkokDesignWeek#DesignUpRising#ออกแบบพร้อมบวก

Sponsor Highlight #3 HATARI

ถ้าจะให้เล่าแบบเข้าใจง่ายที่สุด นี่คือนิทรรศการแนว immersive ที่ตั้งใจสะท้อนศักยภาพของการออกแบบ และความสัมพันธ์ระหว่างสายลมกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของมนุษย์ ซึ่งเป็นผลจากการร่วมงานกันของ Hatari และ Habits Design Studio สตูดิโอสัญชาติมิลานผู้อยู่เบื้องหลังการรีแบรนด์ของฮาตาริและสำหรับใครที่เคยมาเยี่ยมชม Bangkok Design Week (BKKDW) 2024 ก็อาจจะพอเดาได้ว่านิทรรศการในครั้งนี้ถือเป็นภาคต่อของ Designing the Wind เมื่อปีก่อนนั่นเอง“สำหรับงานในปีนี้ หลังจากที่เล่าถึง journey การออกแบบของเราไปแล้วเมื่อปีก่อน เราเลยตีโจทย์ที่มัน abstract มากขึ้น คือเราต้องการให้คนที่มาเดินนิทรรศการได้รู้สึก เลยเกิดเป็นคอนเซปต์ 500 Cubic Meters of Wind ซึ่งเราต้องการใช้ลมเป็นสื่อกลาง เพื่อดูว่าลมสามารถทำงานกับ 5 ประสาทสัมผัสของเราอย่างไรบ้าง” คุณจอยซ์–ทัศน์ลักษณ์ พานิชตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานการวิจัยและพัฒนา เล่าถึงที่มาที่ไปของนิทรรศการในครั้งนี้“ปัจจุบันเรามองเห็นเทรนด์ของโลก ความชอบของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป พัดลมไม่ใช่แค่เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องหนึ่ง ดีไซน์คือสิ่งที่เข้ามาเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักเมื่อคนตัดสินใจซื้อ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญในตอนนี้คือเราต้องสร้างลมที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน” คุณแจส–ชัญญา พานิชตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานขายและการตลาด เสริมถึงอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการออกแบบนิทรรศการที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ชมเป็นอันดับหนึ่งโดยภายในของ Hatari X Habits : 500 Cubic Meters Of Wind จะถูกแบ่งออกเป็น 3 โซนหลักคือDesign Field ไฮไลต์ของงานในครั้งนี้ที่จะมีรูปร่างเป็นโครงสร้างสี่เหลี่ยมห้องใหญ่ ภายในประกอบไปด้วยองค์ประกอบจากวัสดุธรรมชาติ และวัสดุที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของผู้ชมให้เกิดปฏิกิริยาเมื่อสัมผัสกับสายลมผ่านการตีความในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างของลม สัมผัสของลม เสียงของลม กลิ่นของลม และรสชาติของลม ซึ่งฮาตาริแอบสปอยล์ให้ฟังว่าจับมือกับ Guss Damn Good ออกแบบไอศครีมรสชาติพิเศษที่เป็นตัวแทนสายลมของฮาตาริโดยเฉพาะ!Design Library โซนจัดแสดงพัดลมของฮาตาริ ซึ่งจะถูกจัดวางในลักษณะคล้ายกับมิวเซียม ด้วยความตั้งใจที่อยากให้ทุกคนได้เห็นถึงผลลัพธ์จาก journey ในการรีดีไซน์พัดลมซึ่งเป็นธีมหลักในนิทรรศการเมื่อปีก่อนDesign Lab ซึ่งฮาตาริและ Habits ไปเข้าไปทำงานกับ ภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการจัดทำเวิร์กชอปให้กับเหล่านักออกแบบรุ่นใหม่ได้มีโอกาสเรียนรู้งานอย่างใกล้ชิดจากสตูดิโอระดับโลก สอดคล้องกับความตั้งใจของฮาตารินั่นคือการเป็นสายลมที่พัดเพื่อสนับสนุนคนไทย และแวดวงการดีไซน์ของไทย ให้สามารถบินไปได้ไกลกว่าเดิม โดยในนิทรรศการครั้งนี้จะมีทั้งหมด 4 โปรเจกต์ที่ผ่านการคิวเรตมาจัดแสดงให้ได้ชมกัน“หนึ่งในเป้าหมายของเราการเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกันยกระดับแวดวงงานดีไซน์ในประเทศไทย เพราะถึงแม้เราจะเป็นแค่โปรดักต์ แต่การที่ผู้บริโภคเขามี awareness เกี่ยวกับด้านดีไซน์มากขึ้นก็จะทำให้มันส่งผลไปสู่มิติอื่นๆ ในชีวิตของเขาด้วย” คุณแจสเล่า ก่อนที่คุณจอยซ์จะกล่าวทิ้งท้าย“เราอยากเป็นส่วนหนึ่งใน design movement ของกรุงเทพฯ ค่ะ” ตามไปสัมผัสกับสายลมของฮาตาริกันด้วยตัวเองใน Bangkok Design Week 2025 ‘Design Up+ Rising : ออกแบบพร้อมบวก+’ ณ อาคารไปรษณีกลาง ถนนเจริญกรุง ตั้งแต่วันที่ 8-16 กุมภาพันธ์ 2025 ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ ‘Hatari X Habits : 500 Cubic Meters Of Wind’ ได้ที่ : https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/125398#BKKDW2025#BangkokDesignWeek#DesignUpRising#ออกแบบพร้อมบวก

Sponsor Highlight #2 SANSIRI

“โจทย์ที่เราได้รับจาก Bangkok Design Week คือธีมออกแบบพร้อมบวก+ ในปีนี้ สอดคล้องกับแนวคิดของแสนสิริที่ให้ความสำคัญเรื่อง design การออกแบบเพื่อการอยู่อาศัยที่ดี ความยากในการทำงานจะไม่ได้อยู่ที่การตีโจทย์ แต่จะอยู่ที่การหยิบแนวคิดมาถ่ายทอดให้ผู้ชมเข้าใจในสิ่งเดียวกัน นั่นคือการย้ำจุดยืนที่เราเชื่อมาเสมอว่า งานดีไซน์ที่ดีจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตได้” คุณพิม-มัณฑิตา ตรีสรานันท์ Corporate Branding ประจำแสนสิริเล่าถึงโจทย์ตั้งต้นในการออกแบบ‘CONSTRUCTING LIFE, NOT JUST BUILDINGS.’ คือแก่นความเชื่อของแสนสิริที่หล่อหลอมจนเกิดเป็น pavilion เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับ ‘ความเป็นอยู่ที่ดี’ ซึ่งจะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในทุกมิติ โดยภายในจะแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกันGood Mood ตรงตัวกับชื่อของ pavilion ก็คือการสื่อสารผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ว่าดีไซน์ที่ดีจะต้องถูกคิดมาอย่างรอบด้านทั้งรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ทั้งกลิ่นทั้งกลิ่นกาแฟจากบาร์ และกลิ่นซิกเนเจอร์ของแสนสิริที่มีอยู่ในทุกโครงการ รวมถึงเสียง ambience ที่ถูกออกแบบและคิดมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะGood Health สะท้อนถึงแนวคิดที่ว่า การออกแบบที่ดีคือการออกแบบที่เราคำนึงถึงความใกล้ชิดธรรมชาติ เพราะนอกจากพื้นที่สีเขียวจะช่วยเยียวยาจิตใจ ทำให้เรารู้สึกสงบแล้ว การออกแบบโซนนี้ยังได้หยิบเอาแนวคิด Sansiri Backyard หรือพื้นที่สวนครัวหลังบ้านของทุกคนซึ่งมีอยู่ในทุกโครงการของแสนสิริมานำเสนอให้เห็นกันอีกด้วยGood Inspiration ไฮไลต์สำคัญของงาน ซึ่งต่อยอดมาจากโครงการ Artizen ที่แสนสิริเปิดรับดีไซเนอร์รุ่นใหม่ใน 4 สาขาคือ Photography, Illustration, Music Composition และ Product Design เพื่อมาเรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญ และเฟ้นหาตัวแทนในแต่ละสาขาเพื่อมาร่วมออกแบบพื้นที่โซนนี้ร่วมกันภายใต้คอนเซปต์ ‘A Day in a Good Life’“เราหวังว่างานนี้จะชวนให้คนเห็นถึงความสำคัญของ quality of life โดยเฉพาะในมิติของการพัฒนาเมือง ถ้าคนกรุงเทพฯ มีโอกาสได้มาเสพงานศิลปะ เยียวยาจิตใจด้วยพื้นที่สีเขียวที่มีคุณภาพ มันก็น่าจะช่วยให้ความเป็นอยู่ของทุกคนดีขึ้นได้” คุณพิมสรุปแวะมาเยี่ยมชม pavilion ของแสนสิริกันได้ที่ Bangkok Design Week 2025 ‘Design Up+ Rising : ออกแบบพร้อมบวก+’ ณ อาคารไปรษณีกลาง ถนนเจริญกรุง ตั้งแต่วันที่ 8-16 กุมภาพันธ์ 2025 ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ ‘Good Mood Pavilion’ ได้ที่ : https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/125358#BKKDW2025#BangkokDesignWeek#DesignUpRising#ออกแบบพร้อมบวก