Phayanchana (พยัญชนะ) เริ่มต้นจากการออกแบบสร้างสรรค์ตัวอักษรไทยทั้ง 44 ตัวให้เป็นภาพกราฟิก เพื่อแก้ปัญหาในวัยเด็กของนักออกแบบที่จําตัวอักษรทั้ง 44 ตัวไม่เคยได้ และคิดว่าน่าจะเป็นปัญหาของใครหลายๆ คนเช่นกัน ซึ่งการนําเสนอตัวอักษรผ่านภาพกราฟิก สามารถช่วยให้การเรียนรู้ และการจดจําเป็นเรื่องที่ง่าย และสนุกมากขึ้น ในโปรเจกต์ถัดมาคือวรรณรูป (Concrete Poetry) ที่แบรนด์พยัญชนะขยายขอบเขตงานออกแบบให้กว้างขึ้นโดยใช้คํามารังสรรค์ให้เกิดเป็นภาพที่มีชีวิต วรรณรูป คือ รูปที่เกิดจากคํา วลี หรือประโยค ซึ่งเป็นการผสมผสานความงามในด้านรูปทรงหรือภาพที่มองเห็นได้เข้ากับ คํา วลี หรือประโยค โดยรูปทรงหรือรูปภาพ เกิดจากการนําเอาตัวอักษร สระ และวรรณยุกต์มาสร้างสรรค์เข้าด้วยกัน ให้สื่อความหมายตาม คํา วลี หรือประโยคเหล่านั้น คอลเลกชันที่เป็นที่รู้จักมากคือวรรณรูปชุด ‘กรุงเทพมหานคร’ ที่เป็นภาพสถานที่สําคัญในกรุงเทพมหานคร เช่น ภูเขาทอง สะพานพุทธ เสาชิงช้า ในปีถัดมาเราได้ต่อยอดงาน โดยนําคอนเซปต์ ‘วรรณรูป’ มาผสมผสานเข้ากับงานหัตถกรรมไทย จนเกิดเป็นข้าวของเครื่องใช้ภายใต้คอนเซปต์ ‘สานอักษร’ อาทิ ใช้คําว่า ‘ขาวม้า’ ออกแบบเป็นแพตเทิร์นของลายผ้าขาว และนําไปทอขึ้นเป็นผ้าขาวม้าจริงๆ หรือถาดอีนาเมลที่รู้จักกันดีในชื่อถาดสังกะสี เราก็ออกแบบลวดลายโดยใช้ตัวอักษรมาจัดเรียงให้เป็นลายดอกไม้ เพื่อพ่นลงบนถาด กระทั่งเกิดเป็นชิ้นงานที่ร่วมสมัยขึ้น รวมทั้งยังสัมผัสได้ถึงความประทับใจในอดีต ผ่านตัวอักษรไทยอีกด้วย และในปี 2025 เป้าหมายของเราคือการพัฒนาตัวอักษรเหล่านี้ต่อไป เพื่อเปลี่ยนให้เป็นสิ่งของที่จับต้อง ได้ และสามารถใช้งานในชีวิตประจำวัน จนเกิดเป็น ‘TypoSpective’ ที่มาจาก Typography + Perspective โดย Typography คือ ศิลปะในการเลือก จัดเรียง และออกแบบตัวอักษร เพื่อให้ข้อความที่เป็นลายลักษณ์สามารถสื่อความได้อย่างชัดเจน ทั้งอ่านได้ง่าย ความหมายถูกต้อง ส่วน Perspective หรือทัศนมิติ หมายถึงวิธีการออกแบบให้ได้สัดส่วนเหมือนอย่างที่เห็นด้วยตาจริง ด้วยคอนเซปต์ TypoSpective พยัญชนะจึงตั้งใจปรับเปลี่ยนงานสองมิติบนกระดาษ ให้กลายเป็นวัตถุสิ่งของที่จับต้องได้ เน้นการจัดเรียงตัวอักษรให้เกิดความลึก ความสูงต่ํา ใช้แสงเงาและการไล่สี พร้อมกับออกแบบจัดช่องไฟอย่างเหมาะสมเพื่อช่วยปรับความสมดุลไม่ให้ตัวอักษรแออัดซับซ้อนกันจนเกินไป และทำให้ผลงานโดดเด่น เรียบง่ายและทันสมัย อย่างเช่นคำว่า ดอกกุหลาบที่เคยออกแบบภาพกราฟิก โดยจัดเรียงคําบนรูปลักษณ์ของดอกกุหลาบแล้วมาสร้างเป็นดอกจริงๆ เพื่ออยากให้สามารถนําไปเป็นของตกแต่งบ้านได้ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคําที่เราหยิบมาตีความออกแบบและนําเสนอใหม่ อาทิ กองไฟ กรรไกร แว่นตา และนาฬิกาทราย เป็นต้น เพราะฉะนั้น โปรเจกต์ที่ว่านี้ จึงสามารถช่วยเพิ่มคุณค่าให้แก่ภาษาไทยซึ่งเป็นรากฐานที่มั่นคงของวัฒนธรรมไทย อีกทั้งยังช่วยทลายกําแพงความต่างของภาษาให้หายไป คงเหลือไว้ซึ่งนัยยะ ความหมายของภาษา สุนทรียะของงานออกแบบ และความน่าสนใจของรูปอักษร