อัพเดทและเที่ยวชมงาน
A conversation with Sarawut Panhnu, designer of the Bangkok Design Week 2026 Key Visual
“ความเป็นไทย” คอนเซปต์ภาพจำชัดที่เราต่างคุ้นตากันเป็นอย่างดี แต่ในภาพจำนี้กลับเป็นหนึ่งในโจทย์ที่ท้าทายคนออกแบบมาโดยตลอด เพราะสิ่งที่มักจะถูกถามตามหลังมาเสมอก็คือคำว่า “ไทยแบบไหน?” ไปจนถึง “ไทยอย่างไรให้แตกต่าง?” และเมื่อโจทย์นี้กลายมาเป็นคีย์หลักร่วมกับธีม ‘DESIGN S/O/S’ ของ Bangkok Design Week 2026 ก็ทำให้เราอยากรู้ทันทีว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบ Key Visual ของเทศกาลฯครั้งนี้อย่าง ‘กอล์ฟ – สราวุฒิ ปานหนู’ เขามีกระบวนการคิดและตีความโจทย์นี้ออกมาอย่างไร วันนี้ เราเลยชวนคุณกอล์ฟมาพูดคุยถึงเบื้องหลังการออกแบบ Key Visual ของ Bangkok Design Week 2026 ตั้งแต่การตีความโจทย์ DESIGN S/O/S ที่เขามองว่าเป็นการ ‘ส่งสัญญาณปลุก’ ไปจนถึงการผนวกรวมสไตล์ ‘ไทยป็อป’ ที่เขาถนัด เข้ากับกระบวนการทำงานดีไซน์ ที่เขาออกตัวว่านี่คือการออกแบบ Key Visual อย่างจริงจังเป็นครั้งแรกผู้สัมภาษณ์: ก่อนจะคุยกันเรื่อง Key Visual อยากชวนคุณกอล์ฟย้อนอดีตสักหน่อย คุณกอล์ฟเริ่มสนใจงานศิลปะหรือการออกแบบตั้งแต่เมื่อไรคุณกอล์ฟ: น่าจะสมัยมัธยมต้นเลยครับ ตอนนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองชอบวาดรูป แต่ไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรต่อ จนกระทั่งผมย้ายจากกรุงเทพฯ มาอยู่ที่ลพบุรีจังหวัดบ้านเกิดแล้วพบว่า โรงเรียนสายอาชีวะที่นั่นมีการเปิดสอนสาขาวิจิตรศิลป์ด้วย ผมเลยเลือกเรียนสาขานั้นครับ จากนั้นก็มาต่อที่วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ โดยยังคงเลือกเรียนจิตรกรรมไทยประเพณีเหมือนเดิม ผู้สัมภาษณ์: จากคนทำงานจิตรกรรมไทยประเพณีมาก่อน คิดว่าปัจจุบันเอกลักษณ์ในงานของคุณกอล์ฟเป็นแบบไหนคุณกอล์ฟ: ผมเรียกมันว่า “ไทยป๊อป” ครับ เพราะเป็นงานที่มีความป็อป สดใส และร่วมสมัย แต่ยังแอบซ่อนความเป็นไทยอยู่ในรายละเอียดของลวดลายหรือองค์ประกอบ บางชิ้นก็มีลูกเล่นเสียดสี หรือแอบเซอร์เรียลนิด ๆ ตามอารมณ์และบริบทของวันนั้น ถ้าเป็นงานส่วนตัว ผมจะเล่าเรื่องชีวิตประจำวันของตัวเองเลย เอาเหตุการณ์หรือความรู้สึกเล็ก ๆ มาจัดวางอยู่ในภาพหนึ่ง พอจบภาพนั้นก็เริ่มเรื่องใหม่ต่อไป เหมือนบันทึกชีวิตผ่านจิตรกรรมครับจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมหันมาทำงานสไตล์นี้หลังจากเรียนจิตรกรรมไทยประเพณีมานาน เกิดขึ้นเมื่อช่วงเจ็ดปีก่อน ตอนนั้นผมย้ายกลับไปที่ลพบุรีแล้วสภาพแวดล้อมรอบตัวเปลี่ยนหมดเลยครับ จากเดิมที่เคยทำงานบูรณะจิตรกรรมในกรุงเทพฯ แต่พอกลับบ้านไปกลับไม่มีวัดให้ทำงานบูรณะเหมือนเดิม เพราะส่วนใหญ่จะเป็นหน้าที่ของทางกรมศิลป์มากกว่า ประกอบกับช่วงนั้นผมได้กลับมาเจอกลุ่มเพื่อนเก่าสมัยเรียน ทั้งเพื่อนสายเทคนิค เพื่อนที่ทำงานสตรีท พ่นกำแพง หรือทำเพนต์เทรนดี้ ๆ ผมสังเกตว่าทุกคนต่างทำงานศิลปะที่พูดถึงเรื่องราวของตัวเอง พออยู่ไปเรื่อย ๆ เราก็เริ่มซึมซับบรรยากาศรอบตัวจนรู้สึกว่าอยากลองเล่าเรื่องราวของตัวเองบ้าง อยากให้ศิลปะมันสะท้อนชีวิตที่เรากำลังใช้จริง ๆ บ้าง ก็เลยเริ่มทดลองเปลี่ยนแนวทางงาน จับสิ่งที่เราชอบมาตีความใหม่ เช่น การ์ตูน หนังสือ หรือเพลงที่เคยฟังตอนเด็ก ๆ รวมกับเทคนิคการเขียนไทยที่เราเรียนมาจากเพาะช่างฯ ซึ่งเป็นสายจิตรกรรมไทยประเพณีแบบโบราณ ก็เลยได้ทั้งฐานเทคนิคแน่นและพื้นที่ให้เล่นสนุกมากขึ้นผู้สัมภาษณ์: แล้วคุณกอล์ฟเริ่มจับงานออกแบบตั้งแต่เมื่อไรคุณกอล์ฟ: ผมเคยออกแบบปกอัลบั้มเพลงอยู่บ้างครับ แต่จริง ๆ มันไม่ได้ถึงขั้นออกแบบทั้งหมด เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการทำอาร์ตเวิร์กร่วมกับทีม อย่างของ ภูมิ วิภูริศ หรือของวง H 3 F รวมถึงฉากเปิดของซีรีส์เรื่อง สาธุ ด้วยครับ ตอนนั้นงานของผมยังเป็นเพนต์ติ้งล้วน ๆ อยู่เลย เรียกว่าวาดบนผ้าใบทั้งหมด ไม่มีงานดิจิทัลเลย พอวาดบนผ้าใบเสร็จแล้วค่อยสแกนความละเอียดสูงส่งต่อให้ทีมงานเอาไปจัดการต่อในขั้นตอนหลังหลังจากนั้นก็เริ่มมีแบรนด์ต่าง ๆ เข้ามาติดต่อให้ทำงานร่วมกัน ผมเลยต้องเริ่มปรับตัว เพราะงานเพนต์บนผืนผ้าใบมันไม่ค่อยตอบโจทย์เวลาเอาไปใช้กับงานแบรนด์เท่าไร เขาต้องใช้ไฟล์แบบเวกเตอร์หรือดิจิทัล เพื่อจะได้ขยายขนาดและใช้งานต่อในหลายพื้นที่ได้ง่ายขึ้น เลยเริ่มหัดทำงานดิจิทัลจากตรงนั้นครับตอนแรกก็เริ่มจากการลองวาดใน iPad ก่อน แล้วค่อย ๆ ปรับมาใช้โปรแกรมทำไฟล์เวกเตอร์จริงจังมากขึ้น ช่วงนั้นก็มีเพื่อน ๆ มาช่วยแนะนำเทคนิคด้วยครับ ก็เลยค่อย ๆ พัฒนาจากงานเพนต์ติ้งบนผ้าใบ มาสู่งานดิจิทัลที่ยังคงกลิ่นอายของฝีแปรงและความรู้สึกแบบงานเพนต์อยู่ผู้สัมภาษณ์: แปลว่านี่เป็นครั้งแรกที่คุณกอล์ฟได้ออกแบบ Key Visual เลยใช่ไหมคุณกอล์ฟ: ไม่ใช่งานแรกที่เคยทำครับ แต่ถือเป็นครั้งแรกที่ทำอย่างจริงจังเต็มรูปแบบขนาดนี้ ผู้สัมภาษณ์: คำว่า Key Visual ในมุมมองของคุณกอล์ฟเป็นแบบไหนคุณกอล์ฟ: จริง ๆ ผมต้องกลับไปทำความเข้าใจกับสิ่งที่เรียกว่า Key Visual เยอะมากเลยครับ ตามความเข้าใจของผม ผมมองว่าการทำสิ่งนี้คือการสร้างภาพรวมของธีมงานหรือออกแบบอารมณ์หลักของโปรเจกต์ และด้วยความที่เราไม่ได้โตมาแบบดีไซเนอร์ กระบวนการคิดของผมเลยต่างจากคนทำงานออกแบบมาตั้งแต่แรก ก็เลยทำงานในแบบตัวเองก่อน คือออกแบบและวางโครงภาพหลักทั้งหมดตามความเข้าใจของเราจากนั้นก็หาเพื่อนที่เป็นดีไซเนอร์มาช่วยกัน คือเขาจะเข้ามาจัดองค์ประกอบ กราฟิก และการปรับรายละเอียดให้เข้าที่ มาบอกเราว่าพาร์ทนี้ควรอยู่ตรงไหน อันไหนควรเพิ่ม อันไหนควรลด กระบวนการนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้จากเพื่อนที่เป็นกราฟิกดีไซเนอร์มืออาชีพมากขึ้นว่า โลกของงานออกแบบจริง ๆ เขาทำงานกันอย่างไร คิดแบบไหนผู้สัมภาษณ์: พอได้รับโจทย์ ‘DESIGN S/O/S’ คุณกอล์ฟตีความคอนเซปต์นี้อย่างไร และคิดอย่างไรกับคอนเซปต์นี้บ้างคุณกอล์ฟ: ตอนเห็นโจทย์ DESIGN S/O/S ครั้งแรก ผมรู้สึกว่ามันพูดถึงการส่งสัญญาณปลุกมากกว่า เหมือนเป็นการส่งเสียงกระตุ้นให้นักออกแบบไทยลุกขึ้นมาคิดและสร้างสรรค์อะไรบางอย่างในแบบของตัวเอง และคนแรกที่ได้รับสัญญาณนั้นก็คือผมเอง ผมก็เลยคิดว่า เอาล่ะ งั้นเราต้องปลุกความคิดสร้างสรรค์ในตัวเราออกมา เริ่มจากสิ่งที่เรามีคือเอาความเป็นไทยมาต่อยอด เพื่อสร้างสิ่งใหม่จากรากความเป็นไทยที่เรารู้จักผู้สัมภาษณ์: คุณกอล์ฟคิดว่า ในวันที่โลกหมุนเร็วและเต็มไปด้วยความท้าทาย ‘การออกแบบ’ เป็นเครื่องมือและพลังที่จะช่วย ‘ทำ/ให้/รอด’ อย่างไรได้บ้างคุณกอล์ฟ: ถ้าพูดถึงคำว่ารอดในโลกยุคนี้ ผมเชื่อว่าดีไซน์เป็นสิ่งจำเป็นกับชีวิตเรามาตลอด เราอยู่กับมันตั้งแต่จำความได้ ทั้งในสื่อโฆษณา ศิลปะ ไปจนถึงของใกล้ตัวอย่างแก้วกาแฟ ทุกอย่างคือดีไซน์หมด เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากรอดในโลกปัจจุบัน เราต้องเข้าใจคำว่าดีไซน์จริง ๆตอนนี้การมีอยู่ของโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทำให้ความเชยหายไปหมดแล้ว ทุกอย่างขยับเข้าสู่โลกของดีไซน์มากขึ้น ผมคิดว่าคนยุคนี้แทบทุกคนเข้าใจเรื่องเทสต์ เข้าใจเทรนด์ และเข้าถึงดีไซน์ได้ง่ายมาก ๆ จากชีวิตประจำวัน บางทีอาจจะมากกว่าผมด้วยซ้ำ เพราะแค่เปิดมือถือก็เห็นแรงบันดาลใจเต็มไปหมด โลกมันพาเราไปอยู่ในบรรยากาศของดีไซน์โดยไม่รู้ตัว และผมว่าสิ่งนี้แหละครับคือเหตุผลที่ดีไซน์คือทางรอดผู้สัมภาษณ์: คุณกอล์ฟคิดว่า ‘ความเป็นไทย’ คืออะไร คุณกอล์ฟ: สำหรับผม ความเป็นไทยคือสิ่งใกล้ตัวครับ ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ไกลออกไป มันอยู่ในบริบทของชีวิตประจำวันของเราทั้งหมด ถ้าเราไปพยายามหยิบอะไรที่มันไกลตัวเกินไป บางทีมันจะกลายเป็นของที่เราไม่ได้รู้สึกอะไรกับมันจริง ๆ และความเป็นไทยที่อยู่ใกล้ตัวผมก็คือลายไทย หนึ่งในสัญลักษณ์ของความเป็นไทย มันอยู่รอบตัวเรา อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เราเห็นมาตลอดชีวิต ผู้สัมภาษณ์: ถ้าอย่างนั้นความเป็นไทยของคุณกอล์ฟเป็นรสชาติแบบไหนคุณกอล์ฟ: ผมว่าคงเป็นรสเรนโบว์ครับ (หัวเราะ) คือมันมีหลายรสชาติในตัวเอง ตอนนี้อาจจะเป็นรสนี้ แต่ปีหน้าอาจจะเปลี่ยนไปอีก เพราะงานของผมมันไม่เคยตายตัว มันเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาและบริบทของสังคม เหมือนรสชาติชีวิตที่บางทีก็หวาน ขม หรือเผ็ดขึ้นเรื่อย ๆ แต่สำหรับตอนนี้ งานนี้ ปีนี้ ผมว่าน่าจะเป็นรสเรนโบว์ สดใส หวาน นัว ๆ สนุก ๆ หน่อยครับผู้สัมภาษณ์: ก่อนเริ่มออกแบบ คุณกอล์ฟมีวิธีตีโจทย์ ‘DESIGN S/O/S’ ให้เชื่อมกับ ‘ความเป็นไทย’ อย่างไรบ้างคุณกอล์ฟ: ก่อนเริ่มงานนี้ผมได้รีเสิร์ชข้อมูลเกี่ยวกับงานของปีที่แล้วครับว่าเขาเล่นในมุมไหนไปแล้วบ้าง เพราะปีที่แล้วเขาก็พูดถึงความเป็นไทยไปพอสมควร ปีนี้ผมเลยอยากตีความในมุมของตัวเองมากขึ้น เอาความเป็นไทยที่ผมอยู่กับมันมานานกว่าสิบปี ทั้งลวดลาย วัฒนธรรม หรือบรรยากาศของผู้คนรอบตัวมาดัดแปลงให้ร่วมสมัยขึ้น แล้วใส่ความเป็นผมลงไป เพื่อให้มันสนุกขึ้น และยังเชื่อมกับสังคมรอบข้างในตอนนี้ด้วยครับ ผู้สัมภาษณ์: จากการตีความสู่การออกแบบจริง ช่วยเล่ากระบวนการดีไซน์คอนเซปต์นี้ให้ออกมาเป็น Key Visual ให้ฟังหน่อยได้ไหมคะคุณกอล์ฟ: ผมเริ่มจากการรีเสิร์ชคำว่าดีไซน์ก่อนเลย (หัวเราะ) อย่างที่เล่าไป คือผมไม่ได้โตมากับงานดีไซน์โดยตรง พอศึกษาไปก็พบว่าดีไซน์คือการวางแผนชีวิตในแบบหนึ่ง มันเลยทำให้ผมมองกรุงเทพฯ ในฐานะเมืองแห่งการดีไซน์ผ่านเรื่องราวของผู้คนมากมายหลายอาชีพ ผมเลยหยิบภาพเหล่านี้มาใส่ใน Key Visual และใช้มุมมองแบบของผมเองใส่ความเป็นไทยเข้าไปในงานด้วยถ้าสังเกตทุกคนจะเห็นว่าใน Key Visual มีลายไทยซ่อนอยู่ แต่ไม่ใช่แบบตรงไปตรงมา มันแฝงอยู่ในองค์ประกอบของภาพ เหมือนกับในอดีตที่ลวดลายเหล่านี้เคยแฝงอยู่ในบริบทของสังคมไทยอยู่แล้ว ผมแค่นำมาดัดแปลงใหม่ให้อยู่ในภาษาร่วมสมัยมากขึ้น กระบวนการทำงานก็จะเริ่มจากผมคิดคอนเซปต์และสเก็ตช์องค์ประกอบหลัก ๆ ออกมา แล้วค่อยจัดเรียงกับทีมดีไซเนอร์มืออาชีพอีกสองคน เพื่อให้ทุกอย่างออกมาเป็น Key Visual ที่ลงตัวที่สุดครับผู้สัมภาษณ์: ใน Key Visual ครั้งนี้ มีคาแรกเตอร์ตัวไหนที่คุณกอล์ฟชอบเป็นพิเศษไหมคะ คุณกอล์ฟ: จริง ๆ ไม่มีคาแรกเตอร์ตัวไหนที่ผมชอบเป็นพิเศษเลย เพราะทั้งหมดคือผู้คนในพื้นที่สร้างสรรค์ของเมืองไทยที่มีชีวิตอยู่จริง ๆ ไม่ใช่ตัวละครสมมติครับ ผมเลยชอบทุกคน (หัวเราะ) ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นลายไทยผุดขึ้นมาจากพื้นหรือองค์ประกอบต่าง ๆ ในภาพ ดังนั้นถ้าจะบอกว่าอันไหนคือคาแรกเตอร์ก็คงจะเป็นลายไทยนี่แหละครับที่เป็นคาแรกเตอร์ของงานนี้ แต่ถ้าจะให้พูดถึงองค์ประกอบที่ผมรู้สึกว่าน่าสนใจ ก็อาจจะเป็นภาพของ ‘คนวิ่ง’ ครับ มันดูเข้ากับยุคนี้ดี เป็นภาพของการเคลื่อนไหว การมีชีวิต สะท้อนถึงการออกแบบที่ไม่ได้อยู่แค่ในชิ้นงาน แต่อยู่ในวิถีชีวิตของคนทุกคนครับผู้สัมภาษณ์: สุดท้ายนี้ อยากให้คุณกอล์ฟทิ้งท้ายถึงคนที่จะมางาน Bangkok Design Week 2026 ครั้งนี้หน่อย คุณคิดว่าพวกเขาจะได้เจอกับอะไรบ้างคะคุณกอล์ฟ: ผมว่าทุกคนจะได้เจอกับผลงานสนุก ๆ และได้สัมผัสรสชาติของความเป็นไทยในแบบที่อาจไม่เคยเห็นมาก่อน มันอาจจะเป็นรสชาติใหม่ ซึ่งบางคนอาจชอบ บางคนอาจไม่ชอบ ก็ไม่เป็นไรเลยนะครับ เพราะผมมองว่ามันควรจะเปิดพื้นที่ให้คนได้รู้สึกต่างกันอย่างสบายใจ ส่วนปีหน้ารสชาติของเทศกาลนี้ก็อาจจะเปลี่ยนไปอีก แต่สิ่งที่ผมคิดว่าไม่เปลี่ยนไปแน่ ๆ ก็คือความสนุกของการได้สร้างสรรค์และได้เห็นสิ่งใหม่ ๆ ในทุกปีครับ#BKKDW2026#BangkokDesignWeek#DESIGNSOS
08 พ.ย. BBBB
Announcement of Participant
Announcement of Participantประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมจัดเทศกาลฯBangkok Design Week ขอบคุณนักสร้างสรรค์ทุกท่านที่สนใจสมัครเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเทศกาลงานออกแบบฯ เพื่อขับเคลื่อนวงการออกแบบและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ให้เติบโตไปด้วยกันรายชื่อผู้เข้าร่วมจัดเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2569 (Bangkok Design Week 2026)ผู้สนับสนุนเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2569 (Supporter)The EmDistrictMark Jacob______________________________________ผู้ร่วมจัดโปรแกรม (Program Partner)• Exhibition (การจัดแสดง)พื้นที่เทศกาลฯ (Festival Venue)103PAPER SHOPA440 Sound LabABSOLUTE BEGINNER CO., LTDAlkhemist ArchitectsArisara StudioaRoundPBangkok City LabBangkok Community RadioBanglamphu everythingbendi-BANGKOKcc.studioCerebrum Design Co.,LtdCreative Economy AgencyCreative House By CEACuratorial Team of VBHK 2025Dek Korat x Pratintip Artist / PR GROUP THAILAND Department of International Trade Promotion (DIPT)Design PLANTDogseyesview StudioEA-CREkaterina KorchaginaEmbassy of Italy in Bangkok – Italian Cultural InstituteFriends Making WorkHeartsell Entertainment Co.,ltd.Homework fabricHumans of Flower Market by ArchSUHumans of Flower Market by ArchSU x WalkWingINDA – International Program in Design and Architecture, Chulalongkorn UniversityInfinite riotKOLABLee [Phasit Lorsrimuang / Chayutpon Jirajaturapak / Pawin Chaiyapatranun]Live Life DetailmarionsiamMEXmflex factoryMitt Mind TreeMUNIENulty Lighting Design ConsultantsOne to ThreeParnak StudioPART HardwarePBBO X Farmgroup X Veig X HannPDMBRANDPHAYANCHANAPor Laew Dee the CreatorPrem.artisticRUI+ / Fascinating Bangkok: Art Empowers EnterprisesSchool of Architecture, Art, and Design – KMITL x Monash UniversitySHERPUBLIQShma x we!park Splendour SolisSumphat GallerySUTO x Banglamphu EverydayTAKANAO TODO DESIGNThan-T x ChoraleeTHINKK StudioTJT Creative Lab x Playlist x InteractiveVCUarts QatarViaBusพื้นที่ของตนเอง (Your Own Venue)ABAC Architecture + Design, Assumption UniversityADOTAsvin BangkokBANGBAMRUSTUDIO Bangpho Creative CommonsBroduction House / DANUCenter of Innovation for Society (CIS), KMUTTCharoen Lifeclick! – Thammasat Design School (TDS)CODE LifestyleCrystal Design CenterDinDA & MinDA, Faculty of Decorative Arts, Silpakorn UniversityDistortion Studio / NIKITA TROUFANOVDYA Awards, Faculty of Decorative Arts, Silpakorn UniversityElpa ShawFabLab BangkokFABLab Bangkok & Creative Media, KMUTTFarm to TableFloorament x co-incidence.process.coffeeFlying Fish Coffee CompanyGalvaniiGola GalleryGump’s Cross x Canvas and coHouse of Passai+mARCHICONSIAM x BMA x Op-portus x Urban AllyKoyori Project 2025lamunlamai.craftstudioLivelyhoodMadskill BangkokMahanak AllyMEA SPARK, MEA Electricity MeseumMMAD GalleryMobella GalleriaMojito EntertainmentNeighbourmart x CEANKUST x SU in Partnership with OneBangkok OLD DAISY CAFEOpenschoolOp-portusP.tendercoolP45 SPACEPAKKLONG MARKET (2552) COMPANY LIMITEDPOMEProject77 / The Head and The Heart x Stupid StayRTUS-BangkokSARNSARDSchool of Architecture and Design, KMUTT Sewing Machine Museum, Faculty of Home Economics Technology, RMUTKSilpacheep, Faculty of Decorative Arts, Silpakorn UniversitySriwiang GallerySuankularb Wittayalai SchooSUPERNATURESTaiwan Creator AroundThe XYZ art and culture centerUNFEST’26 by Unformat studio Powered by cloud 11Urban AllyUrban Ally x CreatorsWastemattersWater Sensitive Cities Australia Monash Universitywe!parkWomen and Men Progressive Movement Foundation x Bio Thai FoundationXD49 Limited___________________________________• Talk (เสวนา) พื้นที่เทศกาลฯ (Festival Venue)Bangkok City LabCerebrum Design Co.,LtdDesign PLANTIALD Southeast AsiaLUKYANGTTALAB – Thoresen Thai Agenciesพื้นที่ของตนเอง (Your Own Venue)A49Banglamphu everythingFloorament x co-incidence.process.coffeeGameDevHubRTUS-BangkokSchool of Architecture and Design, KMUTT UNFEST’26 by Unformat studio Powered by cloud 11___________________________________• Workshop (เวิร์กช็อป) พื้นที่เทศกาลฯ (Festival Venue)!nw collectiveChula x UQLUKYANGMission EarthNulty Lighting Design ConsultantsSAGAWSHERPUBLIQThaiEstateClubYIMSAMERพื้นที่ของตนเอง (Your Own Venue)Bangkok Community RadioBanglamphu everythingFabLab Bangkok & CISFlooramentGachaGlasglow HomedecorGump’s Cross x Analog Sky FlowIsan Wellness Soundscapelamunlamai.craftstudioMustARTNuclistudio / Superpuen SARNSARDSriwiang Gallery Stand For StraysThe AttractionThe Roots Routes UNFEST’26 by Unformat studio Powered by cloud 11URBAN STREET BANGKOK___________________________________• Event (อีเวนต์) พื้นที่เทศกาลฯ (Festival Venue)BUCA – Bangkok Urban Cycling AllianceCreative House By CEAFascinating Bangkok:Art Empowers Enterprises [China]PlayerfromneighborPor Laew Dee the CreatorSHERPUBLIQStorywiseพื้นที่ของตนเอง (Your Own Venue)Banglamphu everythingEntertainment ProjectFaculty of Decorative Arts, Silpakorn UniversityGor.Gor.Nor.Group x WIPGump’s Cross x EkarIsan Wellness Soundscape Marshall LivehouseMASAYAMaster of Industrial Design, Chulalongkorn UniversityOo La LabPlay SpacePrincess Galyani Vadhana Institute of Music (PGVIM)RTUS-BangkokTeam Spice RoadtheCOMMONS Cloud 11UNESCO and FabCafe BangkokUNFEST’26 by Unformat studio Powered by cloud 11URBAN STREET BANGKOK___________________________________• Tour (ทัวร์) พื้นที่ของตนเอง (Your Own Venue)Bangkok City LabBanglamphu everythingFaculty of Tourism and Hospitality, Dhurakij Pundit UniversityICONSIAM x BMA x Op-portus x Urban AllyPhra Nakhon SaejengRTUS-BangkokTermStationThe Roots Routes THEPLOCATIONWomen and Men Progressive Movement Foundation x Bio Thai Foundation___________________________________หมายเหตุ: โปรแกรมกิจกรรมประเภท Music & Performing, Promotion, และ Market เทศกาลฯ จะประกาศรายชื่ออีกครั้งในภายหลัง และโปรดรอการติดต่อกลับจากเทศกาลฯสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าร่วมจัดเทศกาลฯ ได้ที่อีเมล program.bkkdw@cea.or.th ———————Bangkok Design Week 2026Design S/O/S29 Jan – 8 Feb 2026.#BKKDW2026#BangkokDesignWeek#DesignSOS
01 พ.ย. BBBB
BANGKOK DESIGN WEEK 2026 DESIGN S/O/S
BANGKOK DESIGN WEEK 2026DESIGN S/O/S ในวันที่โลกหมุนเร็วและเต็มไปด้วยความท้าทาย ‘การออกแบบ ทำอะไรได้บ้าง?’ คำถามที่เทศกาลฯ เปิดบทสนทนามาตลอดจึงยังคงเดิม แต่ในปีนี้จะไม่ใช่แค่คำถามอีกต่อไป…แต่คือสัญญาณที่เราต้องลงมือทำทันที เร่งค้นหาทางออกและทางรอดใหม่ๆ ที่จับต้องได้จริงยิ่งกว่าเดิมBangkok Design Week 2026 ขอส่งสัญญาณ DESIGN S/O/S ที่ไม่ใช่สัญญาณขอความช่วยเหลือ แต่คือการประกาศว่า “การออกแบบ” คือเครื่องมือและพลังที่จะช่วย “ทำ/ให้/รอด” ไปด้วยกันS – Secure Domestic ผลักดันสู่มาตรฐานใหม่ ปลุกกระแสตลาดในประเทศO – Outreach Opportunities สร้างโอกาสใหม่ เชื่อมความร่วมมือ พร้อมบุกเวทีโลกS – Sustainable Future ออกแบบทางรอดใหม่ให้วันข้างหน้า พร้อมรับมือทุกความเปลี่ยนแปลงในอดีต “ดีไซน์แบบไทย” อาจยังไม่ได้รับการมองเห็นคุณค่าเท่าที่ควร แต่วันนี้เรากำลังชวนกันมองมุมใหม่ สำรวจความเป็นไทยในแง่มุมที่ สนุกสนาน ยืดหยุ่น ร่วมสมัย นำรากเหง้าความเป็นไทย ทั้งลายเส้น วัสดุ เทคนิค และทักษะดั้งเดิม มาผสมผสานแนวทางดีไซน์ที่แปลกใหม่ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้ได้เลยว่า นี่คือไทย! ไม่ใช่การอยากเป็นสไตล์แบบชาติอื่น ซึ่งเป็นทิศทางในการนำเสนอของเทศกาลฯ เพื่อผลักดันดีไซน์ไทยให้ก้าวไกลในเวทีโลกอย่างเต็มศักยภาพBangkok Design Week 2026 จึงชวนคุณเปิดโหมดสร้างสรรค์ โดยไม่ต้องรอให้ปัญหามาถึง ปล่อยไอเดีย “ช่วยรอด” ที่อยากทดลอง “ทำ” ให้เกิดขึ้นจริง ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร นักสร้างสรรค์ นักออกแบบ นักธุรกิจ นักคิด นักฝัน นักวิจารณ์ นักเชื่อม หรือนักทำ ถึงเวลา “ลงมือ” ออกแบบ ทำ/ให้/รอด พร้อมกันทั่วกรุงเทพมหานคร 29 มกราคม – 8 กุมภาพันธ์ 2569 นี้!Key Visual: DESIGN S/O/S ออกแบบโดย สราวุฒิ ปานหนู
22 ต.ค. BBBB
BKKDW2026 Open Call
เปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมจัดเทศกาลฯวันนี้ – 30 กันยายน 2568“BKKDW เป็นแพลตฟอร์มที่นักสร้างสรรค์จะได้แสดงศักยภาพผ่านการนำเสนองานออกแบบและงานสร้างสรรค์ในโปรแกรมหลากรูปแบบที่กลมกลืนไปกับบริบทเมือง”Bangkok Design Week 2026 (BKKDW2026) หรือ เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2569 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มกราคม – 8 กุมภาพันธ์ 2569 ภายใต้ธีม “DESIGN S/O/S” เพื่อส่งสัญญาณระดมพลนักออกแบบและนักสร้างสรรค์ทุกสาขาให้มาร่วมกันคิดและลงมือทำ เพื่อรับมือกับวิกฤตต่างๆ ที่ส่งผลกระทบทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก โดยใช้การออกแบบเป็นเครื่องมือสำคัญเพื่อปลุกกระแสกระตุ้นตลาดในประเทศ (Secure Domestic) ขยายโอกาสใหม่สู่เวทีโลก (Outreach Opportunities) และพร้อมรับมือกับทุกความท้าทายในอนาคต (Sustainable Future)เทศกาลฯ ขอเชิญชวนทุกคนที่เชื่อในพลังของการลงมือทำ ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยใดหรืออาชีพใด มาร่วมกันใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อฝ่าวิกฤต พร้อมสร้างทางรอดที่จับต้องได้จริงไปด้วยกันBKKDW2026 จะจัดขึ้นในพื้นที่ย่านต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ และเปิดรับการเข้าร่วมจัดเทศกาลฯ หลากรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การจัดแสดง (Showcase & Exhibition) เสวนา (Talk) เวิร์กช็อป (Workshop) อีเวนต์ (Event) ดนตรีและการแสดง (Music & Performing) ทัวร์ (Tour) ตลาด (Market) โปรโมชัน (Promotion) และโครงการ (Project)ผู้สนใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเทศกาลฯ สามารถดูรายละเอียด และสมัครเข้าร่วมจัดเทศกาลฯ ได้ที่ https://bangkokdesignweek.com/bkkdw2026/get-involved/program-partnerดาวน์โหลด PDF คู่มือการเข้าร่วมจัดเทศกาลฯ https://bit.ly/BKKDW2026-OpenCall-TH สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าร่วมจัดเทศกาลฯ ได้ที่อีเมล program.bkkdw@cea.or.th ติดตามความเคลื่อนไหวwww.bangkokdesignweek.comFB/IG: bangkokdesignweek X: @BKKDesignWeekLine: @bangkokdesignweek#BKKDW2026#BangkokDesignWeek#DesignSOS
15 ส.ค. BBBB

