อัพเดทและเที่ยวชมงาน
Sponsor Highlight #8 PTTGC พระนคร
ว่ากันว่าคนไทยเราผลิตขยะพลาสติกกันปีละ 2 ล้านตันโดยสัดส่วนขยะที่ถูกนำไปรีไซเคิลนั้นมีแค่ 21%ขณะที่อีก 79% จะถูกฝังกลบ หรือไม่ก็ตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราเสื่อยักษ์ที่ชื่อว่า Mega Mat จึงเกิดขึ้นบนไอเดียที่ว่า มันคงจะดีกว่าไหมหากเราสามารถชักชวน สนับสนุน และส่งเสริมให้ทุกคนใช้พลาสติกกันได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น โดยเบื้องหลังเสื่อผืนนี้คือการร่วมมือกันของหลายภาคส่วนทั้ง MVRDV Architects, Creative Economic Agency (CEA), PTT Global Chemicals (PTTGC) และสถานทูตเนเธอร์แลนด์ (NL Embassy)‘เสื่อ’ คือไอเท็มเอนกประสงค์ที่อยู่คู่ครัวเรือนไทยมาหลายชั่วอายุคน กระทั่งในเทศกาล Bangkok Design Week ปีนี้ที่พวกเขาได้นำเสื่อที่เราคุ้นเคย มาผลิตใหม่ด้วยพลาสติกรีไซเคิล แถมยังขยายไซส์จนปูได้เต็มลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร กินพื้นที่ใหญ่ถึง 860 ตารางเมตร ชวนให้เหล่าคนเมืองได้มานั่งเล่นในพื้นที่ที่ออกแบบมาให้เป็นเสมือน ‘ห้องนั่งเล่นของเมือง’โดยรูปทรง ลวดลาย และสีของเสื่อนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากหลังคาของวัดสุทัศนเทพวราราม ฝั่งตรงข้ามถนนกับลานคนเมืองนั่นเอง นอกจากนี้เสื่อแต่ละผืนยังทอด้วยลวดลายแบบดั้งเดิมเพื่อสะท้อนถึงศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นของไทยอีกด้วยหลายคนอาจสงสัยว่า จบงานแล้วเสื่อจะไปไหน? ไม่ต้องกังวลไป เพราะเสื่อทั้งผืนจะถูกรื้อถอนและนำกลับมาใช้ใหม่ ทั้งรีไซเคิลเป็นถุงและผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ นำไปมอบเป็นของที่ระลึก รวมถึงบริจาคให้กับวัดที่จำเป็นและนอกเหนือจากเสื่อยักษ์ Mega Mat แล้ว บริเวณโดยรอบยังมีการจัดแสดงโปรดักต์ที่ผลิตขึ้นจากวัสดุทางเลือกที่เหนือความคาดหมายอย่างเยื่อกาแฟ (Coffee Chaff) โดยผู้ผลิต MORE ก็ได้ขนมาโชว์ให้ดูทั้งโคมไฟ โต๊ะ ม้านั่ง แจกัน ไปจนถึงที่รองแก้วเลยทีเดียวตามไปนั่งเล่นบน Mega Mat และชื่นชมชิ้นงานออกแบบสนุกๆ จาก MORE ได้ที่ Bangkok Design Week 2025 ‘Design Up+ Rising : ออกแบบพร้อมบวก+’ ที่ลานคนเมือง ย่านพระนคร ตั้งแต่วันที่ 15-23 กุมภาพันธ์ 2025ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ ‘Mega Mat’ ได้ที่: https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/123366#BKKDW2025#BangkokDesignWeek#DesignUpRising#ออกแบบพร้อมบวก
17 ก.พ. BBBB
Sponsor Highlight #7 SIAM PIWAT
ขึ้นชื่อว่าเป็นงาน Bangkok Design Week 2025 Design Up+ Rising ออกแบบพร้อมบวก+ ทั้งที สยามพิวรรธน์ก็ไม่พลาดที่จะชวนมาพบกับผลงานออกแบบและนิทรรศการที่ได้ร่วมกันสร้างสรรค์กับศิลปินจากทั้งชาวไทยและระดับโลก ซึ่งได้ถูกนำมาจัดแสดงในพื้นที่ศูนย์การค้าทั้งสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม ภายใต้ชื่อ Siam Piwat Creative Powerhouse (+) เพื่อให้งานนี้เป็นขุมพลังที่จะส่งต่อความคิดสร้างสรรค์ให้กรุงเทพมหานคร เป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องมาเยือนของนักเดินทางจากทั่วโลก“สยามพิวรรธน์ เป็นศูนย์การค้าแรกในไทยที่เปิดพื้นที่สร้างสรรค์งานศิลปะ วัฒนธรรม นวัตกรรม และสุนทรียศาสตร์เข้าไว้ด้วยกัน ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ในชีวิตของทุกคน” คุณชนิสา แก้วเรือน ผู้บริหารกลุ่มงานสร้างสรรค์และนวัตกรรม กล่าวถึงจุดยืนที่หนักแน่นของสยามพิวรรธน์ตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ภายในโซนของสยามพิวรรธน์ เราจะได้พบกับ🖼️ Arena of Arts ณ สยามพารากอน🇹🇭Creative Thais ณ สยามเซ็นเตอร์🤝Art Collaboration ณ สยามดิสคัฟเวอรี่🎨Magnificent of Splendor of Art ณ ไอคอนสยามโดยภายในงานประกอบไปด้วยผลงานสร้างสรรค์หลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะจัดวางอย่าง Reflection of You โดย Cheese Arnon (อานนท์ เนยสูงเนิน) The Future in Our Hand ผลงานศิลปะ Sculpture โดย Jaime Hayon , งานประติมากรรมอาตี๋น้อย Rainbow Kido โดยศิลปิน Rain Kai (R.K.) , Future Lab Volume 4: Design Culture x PatPixels ลวดลายที่แตกต่างบนตัวเสื้อชิ้นเดียวในโลก ร่วมกับ Yuedpao และ ศิลปิน Patpixels , Color Meets Function by ODS นิทรรศการที่ผสมผสานผ่านสีสันและฟังก์ชั่นการใช้งาน , ICONCRAFT X THANIYA : The Stellar Zodiac Collection งาน Craft ที่ไม่ควรพลาด รวมถึงไฮไลต์งานศิลป์ไทยระดับมาสเตอร์พีซที่แฝงตัวอยู่ในไอคอนสยามให้เราได้ไปเดินชมกันพบกับผลงานมากมายใน 4 ศูนย์การค้าใหญ่ใจกลางเมืองตลอดเทศกาล Bangkok Design Week 2025 ‘Design Up+ Rising : ออกแบบพร้อมบวก+’ ตั้งแต่วันที่ 8-23 กุมภาพันธ์ 2025 ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ ‘Siam Piwat Creative Powerhouse (+)’ ได้ที่: https://www.siampiwat.com/assets/bangkokdesignweek2025/iconsiam.php#BKKDW2025#BangkokDesignWeek#DesignUpRising#ออกแบบพร้อมบวก
16 ก.พ. BBBB
Sponsor Highlight #6 EM DISTRIC
“ เมื่อ 20 ปีก่อน เราเปิด EMPORIUM ศิลปะคือส่วนหนึ่งของศูนย์การค้าอยู่แล้ว ต่อมาพอมี EMQUARTIER เราก็ยังคงมีกิจกรรมที่เกี่ยวกับศิลปะอยู่ตลอดเวลา จนมาถึงวันที่เรามี EMSPHERE ซึ่งเป็นจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายที่ทำให้ EM DISTRICT ครบสมบูรณ์และจะยิ่งสนุกมากขึ้น เพราะที่นี่คือพื้นที่ของคนรุ่นใหม่ที่มีศิลปะสอดแทรกอยู่ทุกส่วน ทำให้เราคิดว่า EM DISTRICTพร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนหนึ่งของ Bangkok Design Week”คุณตุ๊ก–สุธาวดี ศิริธนชัย กรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด เอ็ม ดิสทริค เล่าให้เราฟังถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้ EM DISTRICT จับมือกับ CEA และ The Head and The Heart Studio ในการจัด Academic Program ให้เหล่านักศึกษาออกแบบจากหลากสถาบัน ได้เตรียมความพร้อมก่อนที่จะก้าวออกจากรั้วมหาวิทยาลัย ออกไปสู่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์อย่างเต็มตัวเกิดเป็น 10 ผลงานศิลปะจัดวาง ที่จะกระจายตัวอยู่ทั่วพื้นที่ใจกลาง EM DISTRICT เริ่มมาตั้งแต่ เดินออกจากสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ มาสู่สกายวอล์ก เชื่อมเข้าไปยังศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ซึ่งคุณตุ๊ก เล่าให้ฟังว่าผลงานหลายชิ้นในโครงการนี้ นอกจากจะมีคอนเซปต์สนุกๆ และวิชวลที่สะดุดตาแล้ว ยังมีฟังก์ชั่นให้ผู้ชมงานได้เข้าไปมีส่วนร่วมได้อีกด้วย!“คอนเซปต์ของเราคือ Here,_____________Everyday คุณสามารถเติมคำในช่องว่างได้ว่าคุณมาที่นี่เพื่ออะไรในทุกๆ วัน เพราะสำหรับคนไทย ห้างสรรพสินค้าคือที่พักผ่อนหย่อนใจ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องมาซื้อของเพียงอย่างเดียว เพราะการมีอยู่ของห้างฯนั้นถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนเมืองไปแล้ว”โดยในขั้นตอนการพัฒนาผลงาน EM DISTRICT ได้เชิญคุณธีรนพ หวังศิลปคุณ นักออกแบบผู้เชี่ยวชาญด้านคอนเซปต์ดีไซน์และกราฟิกดีไซเนอร์ ผู้ก่อตั้ง TNOP DESIGN และคุณ Simon Pillard ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ผู้อยู่เบื้องหลังงานวิชวลอาร์ตทั้งหมดของ The Mall Group รวมถึงทีมการตลาดของเราไม่ว่าจะเป็นทีม MARKETING , MEDIA , PR , CONTENT CREATOR มาช่วยเป็น Mentor และให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์น้องๆ ในทุกมิติ ตลอดการทำโครงการ ทำให้ชิ้นงานจากไอเดียของน้องๆ ได้เกิดเป็นชิ้นงานจริงได้ ซึ่งแต่ละทีมก็ได้ออกแบบชิ้นงานออกมาได้อย่างน่าชื่นชม ไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่เน้นความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังสะท้อน มุมมอง แนวความคิดออกมาได้อย่างสร้างสรรค์ ทั้งยังสอดแทรกแรงบันดาลใจ และในเวลาเดียวกันยังแฝงแง่คิดให้สะกิดใจผู้ชมได้คิดและได้สำรวจตนเอง ในการใช้ชีวิตประจำวัน อีกทั้งในบางชิ้นงานยังให้กำลังใจ เสริมพลังบวกให้กับผู้ชมที่ใช้ชีวิตอยากเร่งรีบในปัจจุบันอีกด้วย เราหวังว่าผู้ที่มาชมนิทรรศการจะต้องได้รับอะไรกลับไปอย่างแน่นอน“ในปีถัดๆ ไปเราอยากเป็นผู้นำย่านสุขุมวิท-พร้อมพงษ์ เพื่อทำให้ที่นี่กลายเป็น ART DISTRICT อย่างเต็มรูปแบบ เพราะเราเชื่อว่าศิลปะคือสิ่งที่เราต้องปลูกฝัง ให้ผู้คน รวมไปจนถึงชุมชนได้ซึมซับในชีวิตประจำวัน ซึ่งเราก็หวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการปลูกฝังนั้น และเชื่อว่าศิลปะจะสามารถกล่อมเกลาสังคมของเราได้ไม่มากก็น้อย”ผลงานทุกชิ้นรอทักทายเราอยู่แล้วที่ Bangkok Design Week 2025 ‘Design Up+ Rising : ออกแบบพร้อมบวก+’ EM DISTRICT บริเวณทางเชื่อมรถไฟฟ้า และภายในศูนย์การค้า EMSPHERE ตั้งแต่วันที่ 8-23 กุมภาพันธ์ 2025 ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ ‘Academic Program : Here,_____________Everyday’ ได้ที่ : https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/125254?fbclid=IwY2xjawIQHeVleHRuA2FlbQIxMAABHeQDxBwwDH5OVJckp4jsSU87ZG3B6l9Cv9XyD0YabkZtT-cUityCIjVlVQ_aem_iPFLD28G2jm69UJRghQfLg#BKKDW2025#BangkokDesignWeek#DesignUpRising#ออกแบบพร้อมบวก
15 ก.พ. BBBB
Sponsor Highlight #4 TAT
TAT + WISHULADA‘Underwater World – โลกใต้ทะเล’ในยุคที่ปะการังกำลังจะถูกแทนที่ด้วยขยะ‘จากงานวิจัยของ Lourens J.J. Meijer ระบุว่าประเทศไทยสร้างปริมาณขยะทางทะเล 2.3 หมื่นล้านตัน/ปี สูงเป็นอันดับ 10 ของโลก’ ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ใช่แค่เต่าทะเลที่จะหายไป แต่ยังหมายถึงทรัพยากรอื่น ๆ ในอ่าวไทยและทะเลอันดามันที่กำลังถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่อง และอาจไม่เหลืออะไรนอกจากขยะจากแนวคิดดังกล่าว คุณเอิบลาภ ศรีภิรมย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยวต้องการสื่อสารให้นักท่องเที่ยวได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาขยะทางทะเลเหล่านี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้ร่วมกับศิลปิน WISHULADA หรือ วิชชุลดา ปัณฑรานุวงศ์ นำเสนอชิ้นงานศิลปะสะท้อนแนวคิดดังกล่าวในชื่อ ‘Underwater World’ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Aquarium แห่งท้องทะเลไทย ผลงานชิ้นล่าสุดที่สร้างสรรค์ขึ้นจากการ Reuse-Upcycle ขยะในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและวัสดุเหลือใช้จากการบริโภคของพนักงานในองค์กรไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำ หลอดน้ำ หรือห่อขนมต่าง ๆโดยเบื้องหลังผลงานชิ้นนี้มีจุดประสงค์เพื่อสะท้อนภาพความเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางทะเลในปัจจุบัน ไปพร้อมกันกับการฉายภาพความสวยงามอีกด้านที่พวกเราทุกคนสามารถช่วยกันรักษาไว้ได้หากมีความตระหนักรู้ถึงความสำคัญ และช่วยกันลดปริมาณขยะ เพื่อดูแลรักษาทรัพยากรให้คงอยู่และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามต่อไปเป้าหมายสูงสุดของ ททท. ในปัจจุบันคือการนำพาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยก้าวไปสู่การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) พร้อมทั้งมีการกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึง เพื่อเป้าหมายเลขสูงสุดคือการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในทุกมิติท่านสามารถแวะมาชื่นชมผลงาน และสัมผัสกับสถานการณ์ขยะในโลกใต้ทะเลผ่านผลงานชิ้นนี้ได้ในงาน Bangkok Design Week 2025 ‘Design Up+ Rising : ออกแบบพร้อมบวก+’ ณ ชั้น 4 TCDC Resource Center อาคารไปรษณีย์กลาง ถนนเจริญกรุง ตั้งแต่วันที่ 8-16 กุมภาพันธ์ 2568ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ ‘โลกใต้ทะเล’ ได้ที่ : https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/126466#BKKDW2025#BangkokDesignWeek#DesignUpRising#ออกแบบพร้อมบวก
13 ก.พ. BBBB
Sponsor Highlight #3 HATARI
ถ้าจะให้เล่าแบบเข้าใจง่ายที่สุด นี่คือนิทรรศการแนว immersive ที่ตั้งใจสะท้อนศักยภาพของการออกแบบ และความสัมพันธ์ระหว่างสายลมกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของมนุษย์ ซึ่งเป็นผลจากการร่วมงานกันของ Hatari และ Habits Design Studio สตูดิโอสัญชาติมิลานผู้อยู่เบื้องหลังการรีแบรนด์ของฮาตาริและสำหรับใครที่เคยมาเยี่ยมชม Bangkok Design Week (BKKDW) 2024 ก็อาจจะพอเดาได้ว่านิทรรศการในครั้งนี้ถือเป็นภาคต่อของ Designing the Wind เมื่อปีก่อนนั่นเอง“สำหรับงานในปีนี้ หลังจากที่เล่าถึง journey การออกแบบของเราไปแล้วเมื่อปีก่อน เราเลยตีโจทย์ที่มัน abstract มากขึ้น คือเราต้องการให้คนที่มาเดินนิทรรศการได้รู้สึก เลยเกิดเป็นคอนเซปต์ 500 Cubic Meters of Wind ซึ่งเราต้องการใช้ลมเป็นสื่อกลาง เพื่อดูว่าลมสามารถทำงานกับ 5 ประสาทสัมผัสของเราอย่างไรบ้าง” คุณจอยซ์–ทัศน์ลักษณ์ พานิชตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานการวิจัยและพัฒนา เล่าถึงที่มาที่ไปของนิทรรศการในครั้งนี้“ปัจจุบันเรามองเห็นเทรนด์ของโลก ความชอบของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป พัดลมไม่ใช่แค่เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องหนึ่ง ดีไซน์คือสิ่งที่เข้ามาเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักเมื่อคนตัดสินใจซื้อ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญในตอนนี้คือเราต้องสร้างลมที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน” คุณแจส–ชัญญา พานิชตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานขายและการตลาด เสริมถึงอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการออกแบบนิทรรศการที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ชมเป็นอันดับหนึ่งโดยภายในของ Hatari X Habits : 500 Cubic Meters Of Wind จะถูกแบ่งออกเป็น 3 โซนหลักคือDesign Field ไฮไลต์ของงานในครั้งนี้ที่จะมีรูปร่างเป็นโครงสร้างสี่เหลี่ยมห้องใหญ่ ภายในประกอบไปด้วยองค์ประกอบจากวัสดุธรรมชาติ และวัสดุที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของผู้ชมให้เกิดปฏิกิริยาเมื่อสัมผัสกับสายลมผ่านการตีความในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างของลม สัมผัสของลม เสียงของลม กลิ่นของลม และรสชาติของลม ซึ่งฮาตาริแอบสปอยล์ให้ฟังว่าจับมือกับ Guss Damn Good ออกแบบไอศครีมรสชาติพิเศษที่เป็นตัวแทนสายลมของฮาตาริโดยเฉพาะ!Design Library โซนจัดแสดงพัดลมของฮาตาริ ซึ่งจะถูกจัดวางในลักษณะคล้ายกับมิวเซียม ด้วยความตั้งใจที่อยากให้ทุกคนได้เห็นถึงผลลัพธ์จาก journey ในการรีดีไซน์พัดลมซึ่งเป็นธีมหลักในนิทรรศการเมื่อปีก่อนDesign Lab ซึ่งฮาตาริและ Habits ไปเข้าไปทำงานกับ ภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการจัดทำเวิร์กชอปให้กับเหล่านักออกแบบรุ่นใหม่ได้มีโอกาสเรียนรู้งานอย่างใกล้ชิดจากสตูดิโอระดับโลก สอดคล้องกับความตั้งใจของฮาตารินั่นคือการเป็นสายลมที่พัดเพื่อสนับสนุนคนไทย และแวดวงการดีไซน์ของไทย ให้สามารถบินไปได้ไกลกว่าเดิม โดยในนิทรรศการครั้งนี้จะมีทั้งหมด 4 โปรเจกต์ที่ผ่านการคิวเรตมาจัดแสดงให้ได้ชมกัน“หนึ่งในเป้าหมายของเราการเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกันยกระดับแวดวงงานดีไซน์ในประเทศไทย เพราะถึงแม้เราจะเป็นแค่โปรดักต์ แต่การที่ผู้บริโภคเขามี awareness เกี่ยวกับด้านดีไซน์มากขึ้นก็จะทำให้มันส่งผลไปสู่มิติอื่นๆ ในชีวิตของเขาด้วย” คุณแจสเล่า ก่อนที่คุณจอยซ์จะกล่าวทิ้งท้าย“เราอยากเป็นส่วนหนึ่งใน design movement ของกรุงเทพฯ ค่ะ” ตามไปสัมผัสกับสายลมของฮาตาริกันด้วยตัวเองใน Bangkok Design Week 2025 ‘Design Up+ Rising : ออกแบบพร้อมบวก+’ ณ อาคารไปรษณีกลาง ถนนเจริญกรุง ตั้งแต่วันที่ 8-16 กุมภาพันธ์ 2025 ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ ‘Hatari X Habits : 500 Cubic Meters Of Wind’ ได้ที่ : https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/125398#BKKDW2025#BangkokDesignWeek#DesignUpRising#ออกแบบพร้อมบวก
12 ก.พ. BBBB
Sponsor Highlight #2 SANSIRI
“โจทย์ที่เราได้รับจาก Bangkok Design Week คือธีมออกแบบพร้อมบวก+ ในปีนี้ สอดคล้องกับแนวคิดของแสนสิริที่ให้ความสำคัญเรื่อง design การออกแบบเพื่อการอยู่อาศัยที่ดี ความยากในการทำงานจะไม่ได้อยู่ที่การตีโจทย์ แต่จะอยู่ที่การหยิบแนวคิดมาถ่ายทอดให้ผู้ชมเข้าใจในสิ่งเดียวกัน นั่นคือการย้ำจุดยืนที่เราเชื่อมาเสมอว่า งานดีไซน์ที่ดีจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตได้” คุณพิม-มัณฑิตา ตรีสรานันท์ Corporate Branding ประจำแสนสิริเล่าถึงโจทย์ตั้งต้นในการออกแบบ‘CONSTRUCTING LIFE, NOT JUST BUILDINGS.’ คือแก่นความเชื่อของแสนสิริที่หล่อหลอมจนเกิดเป็น pavilion เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับ ‘ความเป็นอยู่ที่ดี’ ซึ่งจะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในทุกมิติ โดยภายในจะแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกันGood Mood ตรงตัวกับชื่อของ pavilion ก็คือการสื่อสารผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ว่าดีไซน์ที่ดีจะต้องถูกคิดมาอย่างรอบด้านทั้งรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ทั้งกลิ่นทั้งกลิ่นกาแฟจากบาร์ และกลิ่นซิกเนเจอร์ของแสนสิริที่มีอยู่ในทุกโครงการ รวมถึงเสียง ambience ที่ถูกออกแบบและคิดมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะGood Health สะท้อนถึงแนวคิดที่ว่า การออกแบบที่ดีคือการออกแบบที่เราคำนึงถึงความใกล้ชิดธรรมชาติ เพราะนอกจากพื้นที่สีเขียวจะช่วยเยียวยาจิตใจ ทำให้เรารู้สึกสงบแล้ว การออกแบบโซนนี้ยังได้หยิบเอาแนวคิด Sansiri Backyard หรือพื้นที่สวนครัวหลังบ้านของทุกคนซึ่งมีอยู่ในทุกโครงการของแสนสิริมานำเสนอให้เห็นกันอีกด้วยGood Inspiration ไฮไลต์สำคัญของงาน ซึ่งต่อยอดมาจากโครงการ Artizen ที่แสนสิริเปิดรับดีไซเนอร์รุ่นใหม่ใน 4 สาขาคือ Photography, Illustration, Music Composition และ Product Design เพื่อมาเรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญ และเฟ้นหาตัวแทนในแต่ละสาขาเพื่อมาร่วมออกแบบพื้นที่โซนนี้ร่วมกันภายใต้คอนเซปต์ ‘A Day in a Good Life’“เราหวังว่างานนี้จะชวนให้คนเห็นถึงความสำคัญของ quality of life โดยเฉพาะในมิติของการพัฒนาเมือง ถ้าคนกรุงเทพฯ มีโอกาสได้มาเสพงานศิลปะ เยียวยาจิตใจด้วยพื้นที่สีเขียวที่มีคุณภาพ มันก็น่าจะช่วยให้ความเป็นอยู่ของทุกคนดีขึ้นได้” คุณพิมสรุปแวะมาเยี่ยมชม pavilion ของแสนสิริกันได้ที่ Bangkok Design Week 2025 ‘Design Up+ Rising : ออกแบบพร้อมบวก+’ ณ อาคารไปรษณีกลาง ถนนเจริญกรุง ตั้งแต่วันที่ 8-16 กุมภาพันธ์ 2025 ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ ‘Good Mood Pavilion’ ได้ที่ : https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/125358#BKKDW2025#BangkokDesignWeek#DesignUpRising#ออกแบบพร้อมบวก
11 ก.พ. BBBB
Sponsor Highlight #1 AP
AP Thai + Natureเจอนก JOURNEY ที่หย่อมป่าSpot the Birds at the Habitat Networkในสถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ แค่จะเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองก็ว่ายากแล้ว แต่สิ่งที่โครงการ ‘หย่อมป่า’ ของ AP Thai ตั้งใจทำมากไปกว่านั้นคือการเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ (biodiversity) โดยมีตัววัดผลง่าย ๆ คือการกลับมาของบรรดานกอพยพพันธุ์ต่าง ๆ ที่สูญหายไปจากท้องฟ้าของกรุงเทพฯ ยังก่อน สำหรับคอดูนกยังไม่จำเป็นต้องพกกล้องส่องทางไกลมาในงาน Bangkok Design Week (BKKDW) เพราะเราอาจต้องใช้เวลาในการปลุกปั้นหย่อมป่ากันอีกนิด แต่สิ่งที่ทุกคนจะได้พบแน่ ๆ ในงานนี้คือนิทรรศการที่จะเล่าให้เราฟังว่า 3 ปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการสร้างหย่อมป่าให้เกิดขึ้นจริงนั้นมีอะไรบ้างโดยทั้งหมดจะถูกนำเสนอผ่านกิจกรรม Edutainment Activity อย่าง ‘Layered Stamp Rally’ ให้ทุกคนได้เดินเก็บตราประทับแต่ละเลเยอร์จนครบ หรือ ‘หย่อมป่า Gashapon’ บรรจุโมเดลนกหลากสายพันธุ์พร้อมกับ mini bird map ที่บอกเล่าเส้นทางการอพยพของนก รวมถึงหย่อมป่าในจุดต่าง ๆ ที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วในขณะนี้มาทำความรู้จักกับหย่อมป่า เพื่อเตรียมต้อนรับการกลับมาของนกบนท้องฟ้ากรุงเทพฯ กันได้ที่ Bangkok Design Week 2025 ‘Design Up+ Rising : ออกแบบพร้อมบวก+’ ณ อาคารไปรษณีย์กลาง ถนนเจริญกรุง ตั้งแต่วันที่ 8-16 กุมภาพันธ์ 2025 ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ ‘หย่อมป่า’ ได้ที่ : https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/124900#BKKDW2025#BangkokDesignWeek#DesignUpRising#ออกแบบพร้อมบวก
10 ก.พ. BBBB
Influencer Pick #5 สาย Design
ในปัจจุบันงานดีไซน์และไลฟ์สไตล์ของผู้คน ถือเป็นสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด เพราะดีไซน์ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามหรือฟังก์ชันการใช้งานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบัน และยังสามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกเรื่อง“สําหรับผมหัวใจของงานดีไซน์ มันเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์อยู่แล้ว แทบจะไม่ได้สั่นคลอนกับยุคสมัยเลย ตราบใดที่มนุษย์ยังเดินไปข้างหน้า เพื่อหาสิ่งที่ดีขึ้นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นส่วนรวมหรือส่วนตัว”‘อาจารย์ติ๊ก’ หรือ ‘สันติ ลอรัชวี’ เล่าให้เราฟังถึงแนวคิดที่ว่าปัจจุบันงานดีไซน์และไลฟ์สไตล์นั้น ถูกเชื่อมโยงให้เข้ากับทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวันมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักจะถูกถ่ายทอดออกมาผ่านแนวคิดและผลงานของเขาอยู่เสมอหากย้อนมองกลับไปตั้งแต่นิทรรศการ ผลงานต่าง ๆ ที่ผ่านมา หรือการเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง PS±D Practical school of design เราก็จะพบว่าจุดประสงค์หรือแนวคิดของอาจารย์ติ๊กคือการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการคิดเชิงออกแบบ เพื่อให้สามารถนำไปปรับใช้กับทุกเรื่องได้ เช่นเดียวกันกับ Bangkok Design Week ปีนี้ที่อาจารย์ติ๊กก็ถือเป็นหนึ่งศิลปินที่มีส่วนร่วมในเทศกาลฯ เช่นกันโค้งสุดท้ายก่อนจะไปเริ่มบวก+ พร้อมกันในงานเทศกาลฯ เราจึงขอพาทุกคนไปพูดคุยกับอาจารย์ติ๊ก ถึงภาพรวมของวงการการออกแบบในไทย และเรียนรู้งานดีไซน์ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของมนุษย์ผ่านโปรแกรมใน Bangkok Design Week ที่คัดเลือกและร่วมสร้างสรรค์โดยอาจารย์ติ๊ก📍8-16 กุมภาพันธ์ ที่ย่านเจริญกรุง – ตลาดน้อย, เยาวราช – ทรงวาด, ปากคลองตลาด, และพื้นที่อื่นๆ 📍15 – 23 กุมภาพันธ์ ที่ย่านพระนคร, บางลำพู – ข้าวสาร, และพื้นที่อื่นๆ 📍เฉพาะเสาร์และอาทิตย์ 8-9, 15-16, 22-23 กุมภาพันธ์ ที่ย่านหัวลำโพง, บางโพ, และพื้นที่อื่นๆ#BKKDW2025#BangkokDesignWeek#DesignUpRising#ออกแบบพร้อมบวกในปัจจุบันวิถีชีวิตของมนุษย์มีความเร่งรีบมากขึ้น รวมถึงวิถีชีวิตที่ยึดติดกับเรื่องของเทคโนโลยีมากเกินไป จนลืมวิถีชีวิตดั้งเดิมและสิ่งรอบตัวไป สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายและจิตใจ ทั้งยังสะท้อนถึงความเครียดที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน ปัจจัยเหล่านี้จึงทำให้เกิดโปรแกรมที่ชื่อว่า ‘Look Up’ ที่เป็นการร่วมมือกันระหว่าง เป็นการร่วมมือกันระหว่าง Fast Space Design และ PS±D Practical school of design“Look Up เป็นโปรแกรมที่พยายามจะให้เราได้ออกจากสิ่งที่รบกวนเรา ก็คือโทรศัพท์ โดยเฉพาะในโลกที่มันเปลี่ยนแปลงไปหลังโควิด แล้วก็ความเร่งรีบในการใช้ชีวิต พฤติกรรมของคนหรืออะไรต่าง ๆ เนี่ย เพราะฉะนั้น ในโปรแกรมมันก็จะมีกิจกรรมหรือกระบวนการในการออกแบบ ที่พยายามจะทําให้คนเข้ามาฟังหรือว่าคนเข้ามาร่วมเวิร์กช็อปเนี่ย ได้เห็นมุมมองในการที่พยายามจะกลับไปดีไซน์ชีวิตประจําวันตัวเองอย่างไร ให้มันสามารถที่จะควบคุมหรือว่ารับมือกับสิ่งที่เรียกร้องเราอยู่ตลอดเวลาได้”“โปรแกรมนี้เราทำร่วมกับ Fast Space Design ของ Ryosuke Ebisawa ซึ่งเขาก็จะมาแชร์เรื่องของมุมมองในการจัดการเรื่องชีวิตประจําวัน รวมถึงพื้นที่ในการทํางานที่เป็นบริบทของปัจจุบัน ส่วนผมก็จะพูดในมุมของ Graphic Design หรือ Communication Design ที่สิ่งเหล่านี้ก็มีผลสำคัญต่อไลฟ์สไตล์และการทำงานของผู้คนในปัจจุบันเหมือนกัน”ซึ่งอาจารย์ติ๊กมองว่างานดีไซน์ในปัจจุบัน นอกจากจะต้องสวยงามและตอบโจทย์ต่อการใช้งานแล้ว งานดีไซน์ที่ดีจะต้องสามารถตอบโจทย์ต่อวิถีชีวิตของมนุษย์ในยุคที่เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน ดังที่เราเห็นวิถีชีวิตของผู้คนในกรุงเทพฯ ที่เร่งรีบมากขึ้น และรวดเร็วมากขึ้น เพราะฉะนั้นนอกจากผู้คนในวงการดีไซน์จะต้องซัพพอร์ตไลฟ์สไตล์มนุษย์แล้ว ผู้คนเองก็ต้องสามารถดีไซน์ไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของตนเองได้ด้วยเช่นกัน📍LOOK UPFast Space Design + PS±D Practical school of designย่านเจริญกรุง – ตลาดน้อยTCDC กรุงเทพฯ15 กุมภาพันธ์ 2568ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/106827ทุกปีที่ผ่านมา Bangkok Design Week เราได้พยายามที่จะแบ่งปันและนำเสนองานดีไซน์ ที่จะสามารถบอกเล่าถึงอดีตและปัจจุบัน รวมถึงสะท้อนเอกลักษณ์ของผู้คนในพื้นที่ได้ เพราะฉะนั้นเราจึงมักจะเห็นผลงานดีไซน์ที่หลากหลายผ่านโปรแกรมต่าง ๆ อยู่เสมอหนึ่งในนั้นคือโปรแกรมที่ชื่อว่า ‘จิบกาแฟฟังเรื่องเล่า ตามรอยอักษรจากงานเขียนสู่งานพิมพ์’ ที่เป็นการเสวนาแบ่งปันความรู้และมุมมองเกี่ยวกับการเดินทางของตัวอักษรไทย และสิ่งพิมพ์ กราฟฟิกต่าง ๆ ต้้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จากวิธีเขียนด้วยมือมาสู่การพิมพ์ด้วยเครื่องจักร ซึ่งเป็นโปรแกรมที่จะทำให้เราเห็นว่าในเทศกาลฯนี้เราก็ยังคงให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของวงการการออกแบบในด้านต่าง ๆ อยู่“โปรแกรมของ Craftsman Roastery เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่ดูน่าสนุก เพราะเราจะได้ฟังเรื่องเก่าต่าง ๆ ทั้งมุมมองและการเปลี่ยนแปลงไปของรูปแบบอักษรไทย และเชื่อมโยงมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งระหว่างฟังเราก็จิบกาแฟไปด้วย และนั่งฟังไปด้วยท่ามกลางบรรยากาศของคราฟส์แมนโรสเตอรี่ที่เชื่อมกันกับเรื่องราวที่เราจะเล่า”โดยในโปรแกรมนี้จะมีคุณเอนก นาวิกมูล มาแชร์มุมมองถึงจุดเชื่อมโยงระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ร่วมกันกับอาจารย์ติ๊ก โดยที่ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของการออกแบบตัวอักษรไทย และผลกระทบที่มีต่อสังคมและวัฒนธรรมไทย📍จิบกาแฟฟังเรื่องเล่า “ตามรอยอักษรจากงานเขียนสู่งานพิมพ์”Craftsman Roasteryย่านพระนครคราฟส์แมนโรสเตอรี่ สาขาโอลด์ทาวน์16 กุมภาพันธ์ 2568ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/123930“ผมคิดว่าน่าสนใจที่สมาคมนำโปรแกรมนี้กลับมานำเสนออีกครั้ง เพราะตั้งแต่สมาคมก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2552 ก็จะเห็นว่า ปัจจุบันนิยามของคำว่ากราฟิกดีไซน์มันถูกขยับขยายออกไปไกลมาก ๆ ในหลากหลายแง่มุม”อาจารย์ติ๊กเล่าให้เราฟังถึงโปรแกรมที่ชื่อว่า We are Thai Graphic Designers เป็นโปรแกรมที่ต่อยอดมาจาก ‘I am a Thai Graphic Designer’ ซึ่งเริ่มและดำเนินการโดย PRACTICAL Design Studio ในปี 2552 โดยชวนให้นักออกแบบกราฟิกไทยออกมานำเสนอตัวตนและการมีอยู่ของวิชาชีพกราฟิก และสื่อถึงความพร้อมของเครือข่ายนักออกแบบกราฟิก ที่นำไปสู่ความร่วมมือทางวิชาชีพเพื่อเป็นกำลังสำคัญหนึ่งของสังคมต่อไปซึ่งแน่นอนว่าโปรแกรมนี้ นอกจากจะเป็นการที่เราจะได้เปิดรับมุมมองใหม่ ๆ ผ่านการนำเสนอตัวตนและการมีอยู่ของวิชาชีพกราฟิกแล้ว ยังทำให้เราสามารถมองเห็นถึงพัฒนาการที่เกิดขึ้นกับวงการกราฟิกไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง และในอนาคตจะมีแนวโน้มไปในทิศทางไหน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เราจะได้เห็นใน Bangkok Design Week ที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน📍We are Thai Graphic DesignersThaiGaย่านเจริญกรุง – ตลาดน้อยอาคารเวิลด์ แทรเวล เซอร์วิส (ปันยารชุน)08 – 16 กุมภาพันธ์ 2568ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/109616#BKKDW2025#BangkokDesignWeek#DesignUpRising#ออกแบบพร้อมบวก
07 ก.พ. BBBB